กกพ.เคาะค่าไฟงวดใหม่ 4.45 บาท ด้าน ส.อ.ท.ชี้ยังลดได้อีก เหตุแอลเอ็นจีถูกกว่าเดิมมาก

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษา การปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนกันยายน - ธันวาคม 2566

โดยมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน (พฤษภาคม - สิงหาคม 2566) จาก 4.70 บาทต่อหน่วย เหลืออยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 จนถึง ธันวาคม 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเคาะค่าไฟครั้งนี้ มาจาก3 แนวทาง ประกอบด้วย

1. ค่าไฟอยู่ที่ 6.28 บาทต่อหน่วย เนื่องจากจะคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 135,297 ล้านบาท จะทำให้เอฟทีอยู่ที่ 249.81 สตางค์ต่อหน่วย และรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย

2. ค่าไฟเท่าเดิม 4.70 บาทต่อหน่วย มาจากเอฟที 91.19 สตางค์ต่อหน่วย ใช้วิธีทยอยคืนหนี้ กฟผ. 32,291 ล้านบาท เหลือหนี้ 97,006 ล้านบาท และรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย

3. ค่าไฟลดลงเหลือ 4.45 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 66.89 บาทต่อหน่วย โดยหนี้กฟผ.ทยอยจ่ายคืน 5 งวด งวดละ 23,428 ล้านบาท เหลือหนี้ 111,869 ล้านบาท และรวมกับค่าไฟฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย

-------------

วานนี้ (27 ก.ค. 66) นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เคาะค่าไฟสุดท้ายที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ในงวด 3 (กันยายน-ธันวาคม 2566) ว่า

เอกชนไม่ยอมรับค่าไฟฟ้างวดดังกล่าว เพราะปัจจุบัน ปัจจัยบวกทั้งภายในและภายนอกมากมาย ที่ทำค่าไฟลดลงได้มากกว่า 4.45 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย โดยที่ผ่านมายังพบว่า ข้อเสนอจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ถึงรัฐบาล แต่กลับไร้การตอบรับ

นายอิศเรศ กล่าวว่า ส่วนตัวยังมองว่าค่าไฟงวด 3 ยังลงได้มากกว่าที่ประกาศออกมาจาก 3 เหตุผล คือ

1. การจัดการยืดหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพราะแอลเอ็นจีนำเข้า จ่ายจริงต่ำกว่าสมมุติฐาน ในการเรียกเก็บค่าค่าไฟงวด 1 (มกราคม-เมษายน 2566) และ งวด 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566)

2. การจัดซื้อแอลเอ็นจีควรเป็นวันทีม

3. ควรรื้อโครงสร้าง ค่าก๊าซธรรมชาติ ระหว่างปิโตรเคมี ผู้ผลิตไฟฟ้า และอื่นๆ อย่างเหมาะสม และเป็นธรรม

“หากกลไกภายใต้รัฐบาลรักษาการณ์เป็นแบบนี้ คงต้องเป็นการบ้านเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ ที่ต้องเข้ามาปฏิรูปเชิงรุก” นายอิศเรศกล่าว

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/17uLyQn6CHo