สังคม

'ไทย สมายล์ บัส' แจงปิดประตูหนีบขา-ล้อหลังทับผู้โดยสาร ยันดูแลคนเจ็บดีที่สุด พร้อมฟันโทษคนขับหากพบผิด

โดย petchpawee_k

28 ก.ค. 2566

213 views

วันที่ 27 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังเกิดอุบัติเหตุบนรถเมล์สาย 554 เบอร์ S2 (17) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 21 ก.ค. 2566 เมื่อรถเมล์มาถึงป้าย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร คนขับรถไม่เห็น คิดว่าคนขึ้น-ลงหมดแล้ว จึงปิดประตูและออกรถ ทำให้ประตูหนีบผู้โดยสารคนหนึ่งจนล้มลงบนถนน และถูกล้อหลังทับขา นั้น


ล่าสุด เพจ “ไทยสมายล์บัส” ออกคำชี้แจง เรื่อง กรณีรถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าสาย 554 เบอร์ S2 (17) ที่ปรากฏภาพตามในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า ตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ โพสต์วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 กรณีรถปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าสาย 554 เบอร์ S2 (17) ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ที่ปรากฏภาพตามในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ท่าน ทางบริษัทขอเรียนแจ้งว่า บริษัทมิได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมดำเนินการตามกระบวนการอย่างดีที่สุด


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ทราบว่าวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 21.50 น. ได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น และในเวลา 23.50 น. ผู้จัดการเดินทางเข้าพบผู้โดยสาร และญาติ เพื่อสอบถามอาการ และให้ฝ่ายตรวจสอบเข้าตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานอย่างเร่งด่วนภายในวันเกิดเหตุ


และในวันรุ่งขึ้น (22 กรกฎาคม 2566) ผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ได้เข้าเยี่ยมสอบถามอาการผู้บาดเจ็บและญาติอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ผู้โดยสารได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง โดยทางผู้บริหารของบริษัทฯ ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าจะดูแลผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด


รายละเอียดและการตรวจสอบข้อมูล ในขณะนี้ทางบริษัทอยู่ในชั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลในทุกๆ ด้านอย่างละเอียด และจะพิจารณาลงโทษผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดเหตุอย่างเคร่งครัด ซึ่ง ณ ขณะนี้ขอให้ผลการตรวจสอบได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในส่วนของภาพและวิดีโอที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ ทางบริษัทขอความเห็นใจทุกท่านกรุณางดเผยแพร่ เนื่องจากบริษัทเคารพและห่วงใยความรู้สึกของญาติ และผู้ได้รับบาดเจ็บ



บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ขอน้อมรับความผิดพลาดในครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะดูแลผู้ได้รับอุบัติเหตุ และครอบครัวอย่างดีที่สุด



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/SeeOXtoPMh8

คุณอาจสนใจ

Related News