คุมตัว ‘คนขับรถเมล์ สาย 113’ ฝากขัง หลังชนสองแถว ผู้โดยสารดับ 1 ขณะขนส่งจ่อเรียกสอบ

รถเมล์ไฟฟ้า สาย 113 พุ่งชนท้ายรถสองแถว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 คน เสียชีวิต 1 คน ขณะที่คนขับรถเมล์อ้างเหม่อ ตร.แจ้งข้อหาและเตรียมส่งฟ้องศาลอาญามีนบุรีวันนี้ ขณะขนส่งจ่อเรียกตรวจสอบการขับรถ

กล้องหน้ารถเมล์สาย 113 บันทึกภาพขับมาบนถนนร่มเกล้า เวลา 12.30 น. วานนี้ (14 พ.ย. 2566) จะเห็นว่ารถเมล์วิ่งมาเลนกลาง โดยใช้ความเร็วที่ 47 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะเร่งความเร็วมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ 55 กิโลเมตร แล้วรถก็เบี่ยงมาเลนซ้าย พุ่งชนท้ายรถสองแถวที่จอดอยู่ด้านหน้าทันที

ทำให้รถสองแถวสาย 99 วิ่งระหว่างห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ถึงร่มเกล้า ตัวรถพังเสียหายไปครึ่งคัน โดยเฉพาะด้านหลังรถที่เป็นบริเวณบรรทุกผู้โดยสาร โครงหลังคายุบมาจนถึงหน้าตัวรถ กระจกหน้าแตกเสียหาย หน้ารถเกยขึ้นบนขอบทางเท้าบริเวณปากซอย รามคำแหง 203/1 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่บนรถสองแถว 10 คน ได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้มี 1 คน บาดเจ็บสาหัส คือ นายศุภชัย ศิริชาติชัย อายุ 68 ปี และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อประมาณ 18.30 น.วานนี้ ส่วนคู่กรณีเป็นรถเมล์ไฟฟ้า สีน้ำเงิน สาย 113 วิ่งระหว่างมีนบุรี-หัวลำโพง กระจกหน้าฝั่งซ้ายแตกเสียหายบางส่วน จอดอยู่เลน 2 กลางถนน

เมื่อวานนี้ ตำรวจคุมตัวนายชนกันต์ เจียระนัย อายุ 33 ปี ขับรถเมล์ สาย 113 มาสอบปากคำที่ สน.มีนบุรี เจ้าตัวอ้างว่า เหม่อและไม่ทันสังเกตรถสองแถวที่จอดอยู่

ขณะที่นายชัชวาล คนขับรถสองแถว กล่าวกับทีมข่าวว่า ขับรถเลาะเลนซ้ายมาเรื่อยๆ เพราะต้องคอยจอดรับผู้โดยสาร กระทั่งก่อนถึงจุดเกิดเหตุ มองกระจกหลังเห็นรถเมล์คู่กรณีพยายามจะแซงขวา เลยเปิดไฟเลี้ยวส่งสัญญาณเพื่อให้รถเมล์แซงขึ้นไป แต่อยู่ๆ รถเมล์พุ่งมาชนท้ายอย่างแรง พอรถจอดเขารีบวิ่งลงไปดูผู้โดยสารทันที แต่ยังไม่ได้คุยกับคนขับรถเมล์ ส่วนตัวสันนิษฐานว่า คนขับรถเมล์อาจจะเหม่อหรือเล่นมือถือ ยืนยันไม่ได้ขับปาดกันมา เพราะใช้ความเร็วแค่ 40 กิโลเมตร

ประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้คุมตัวนายชนกันต์ คนขับรถเมล์ สาย 113 ไปฝากขังยังศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาขับรถโดยประมาทและกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวนายชนกันต์ไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร รวมถึงผู้จัดการของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ถึงกรณีเงินชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

ด้านพันตำรวจเอก กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี กล่าวว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความประมาท และผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนี ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ส่วนค่าชดใช้เยียวยาทางบริษัทของรถประจำทาง มีประกันที่มีวงเงินอยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่ว่าทางผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บจะเรียกร้องเท่าไหร่ เบื้องต้นมีผู้เสียหายประมาณ 3-4 คน เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว

ขณะที่ตัวรถเมล์ที่หลายคนตั้งคำถามว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบำรุงของบริษัทรถประจำทางเข้ามาดูรถของกลาง พร้อมยืนยันว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น รถเมล์ไม่ได้มีความผิดปกติหรือขัดข้องอะไร และในตัวรถเองมีแคนบัสหรือกล่องดำคล้ายเครื่องบิน ซึ่งจะสามารถรู้ได้ว่ารถขับมาด้วยความเร็วเท่าไหร่ และแตะเบรกระยะไหนซึ่งตรงนี่จะเป็นหลักฐานต่อรูปคดีได้

ขณะที่กองตรวจการขนส่งทางบกจะเรียกพนักงานขับรถเมล์ มาสืบสวนข้อเท็จจริงหากพบการกระทำความผิด จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดร้ายแรง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/D-0ZFmP843c