เลือกตั้งและการเมือง

'เสรีพิศุทธ์' โยน 'ก้าวไกล' ตัดสินใจ เปรียบ 'เด็กหนุ่ม' ต้องสละเรือเพื่อเดินหน้าต่อ ยันพูดเพราะรัก

โดย petchpawee_k

22 ก.ค. 2566

92 views

"เสรีพิศุทธ์" ไม่กลัว "ก้าวไกล" โกรธ หลังบอก “เด็กหนุ่มต้องเสียสละให้เด็ก ผู้หญิง คนแก่ ขึ้นเรือก่อน เรือถึงจะไปต่อได้”  ฝากย้อนไปดูปี 62 เพื่อไทยชนะเลือกตั้งก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล บอกไม่ใช่ไม่มี "ก้าวไกล" ลั่น มีแต่ไม่ต้องไปโชว์


วานนี้ 21 ก.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย ภายหลังพรรคก้าวไกลประกาศส่งไม้ต่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยได้เชิญ 8 พรรค เข้าร่วมประชุมจัดตั้งรัฐบาล และมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อีกหนึ่งคนที่เข้าร่วมการประชุมด้วยวานนี้คือ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย


โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  กล่าวถึงการแก้ไข ม.112 ว่า การแก้ไข ม.112 เป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ซึ่งก่อนหน้านี้คนเคยอภิปรายในสภา และได้อธิบายว่าการแก้ไข ม.112 มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2499 ซึ่งช่วงนี้ได้แซวผู้สื่อข่าวเล็กน้อยว่าช่วงนี้เกิดกันหรือยัง ซึ่งตนเกิดแล้ว แล้วพวกคุณเกิดกันหรือยัง


แล้วก็มีอีกครั้งตอนปี 2519 ถ้าหากมีการแก้ในปัจจุบันก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะว่า ม.112 เป็นประมวลกฎหมายอาญา เราแก้ รธน. ยังสามารถแก้ได้เลย แต่ทำไมประมวลกฎหมายอาญาเราถึงจะแก้ไขไม่ได้ และขอบอกตรงๆว่า มาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเอง จะให้ตนทำยังไง เมื่อเขาอ้างมาแบบนี้ก็ไม่รู้ทำยังไงได้


ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  ยังกล่าวถึงเมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ที่มีการโหวตนายกฯ ของนายพิธา ครั้งที่ 2 เป็นการซ้ำซ้อน ผิดข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้ลงคะแนน เพราะเห็นว่าผิด รธน. ถ้าตนไปร่วมลงคะแนนด้วย เท่ากับตนไม่ยอมรับเขา ตนจึงไม่ลง แต่ตนก็ไม่ได้ไปไหน


ส่วนการนำเรื่องนี้ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องมติของสภาจะส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่า จะติดขัดรัฐธรรมนูญส่งผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตย์ รอบ 2 ที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหาย หรือเกี่ยวข้องหรือไม่ และถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ หากไม่ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่รับคำร้อง หากผู้ตรวจการแผ่นดินรับเขาก็ผิด  


ซึ่งในวันพุธที่ 26 ก.ค.นี้ จะดำเนินการนำเรื่องนี้ไปยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเอง และขอให้สมาชิกพรรคต่างๆให้ช่วยลงชื่อด้วย เพื่อปลดล็อกผลมติการประชุมรัฐสภาในครั้งที่แล้วให้ได้ เพราะเมื่อยังไม่ได้ปลดล็อก จึงถูกบังคับใช้มาเรื่อยๆ จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หากล็อกยังไม่ถูกปลดก็จะถูกบีบอยู่เช่นนี้


พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ยกตัวอย่างกรณี นายพิธา หากเสนอชื่อในครั้งที่ 2 ขึ้นมา สมมติถูกปลดล็อกแล้วสามารถเสนอได้ แต่มติเช่นนั้น และทำให้ตนกลายเป็นผู้เสียหาย สามารถฟ้องได้รัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ซึ่ง ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการสืบสวน และดำเนินคดีกับนักการเมืองที่กระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ และกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยตนจะดำเนินการพร้อมเรียกร้องค่าเสียหายด้วยเลย “ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรี เสือกไม่ให้เป็น ฟ้องไปสักพันล้าน พอหรือเปล่าก็ไม่รู้”


ช่วงท้ายแถลง พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์  ยังกล่าวถึงประเด็นที่พรรคขั้วรัฐบาลเดิม และ สว. กดดันเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่พรรคก้าวไกล ว่า ส.ว.จิ้มมาแล้วว่าถ้ามีพรรคก้าวไกล เขาไม่เอาด้วย  รวมทั้งชาติไทยพัฒนา  ภูมิใจไทย และใครๆก็บอกว่าถ้ามีก้าวไกลไม่เอาด้วย แต่ตนเห็นว่าก้าวไกลกับเพื่อไทยอยู่ด้วยกันมาตลอด และเพื่อไทยจะตัดเยื่อใยเลยก็ไม่ถูก


ดังนั้นเพื่อไทยต้องรักษาก้าวไกลเอาไว้อยู่ร่วมกัน โดยก้าวไกลก็ต้องสนับสนุนเพื่อไทย ถ้ายังมี 151 เสียงเพิ่มเข้าไปอีก จำได้ไม่หนักใจที่จะไปหาเสียง สส.-สว. มาเพิ่ม เพราะฉะนั้นควรเป็นเรื่องของก้าวไกลที่ต้องตัดสินใจ จะทำอย่างไร ถ้ายังยืนยันอยู่ เพื่อไทยยังไงก็ไม่ผ่านหรอกเชื่อผมสิ  แต่ถ้าเสียสละก็พอไปได้


ซึ่งตอนประชุมก็พูดในห้องประชุมว่า “เปรียบเสมือนเรือยังอยู่กลางทะเล เรือล่ม มีคนแก่  มีผู้หญิง  มีเด็ก  มีอะไรต่างๆ แล้วเราคนหนุ่มต้องขึ้นเรือก่อนเหรอเราก็ต้องให้เด็ก ผู้หญิง ขึ้นไปก่อน เราก็ยอมเสี่ยงภัยไปก่อน เดี๋ยวเรือลำที่สองมาเราค่อยไป ไม่ใช่ไอ้หนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อน ปล่อยให้เด็กและผู้หญิงผจญกรรมอย่างนั้นไม่ได้ ดังนั้นต้องมีผู้เสียสละ เพื่อให้ประชาธิปไตยไปได้ ไม่อย่างนั้น ถ้าไม่มีการเสียสละไปต่อไม่ได้


ระหว่างนั้นนักข่าวประสานเสียงพยายามถามว่าเสียสละหมายความว่าอย่างไร  ก้าวไกลต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ โดยช่วงนั้น พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์  ยังไม่ได้ให้คำตอบ เนื่องจากว่าสิ้นสุดการแถลงพอดี


ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว สื่อมวลชน พยายามเข้าไปสอบถาม พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ถึงประเด็นที่เคยกล่าวว่า "หากมีการเสียสละก็พอไปต่อได้ เด็กหนุ่มต้องเสียสละลงจากเรือก่อน" หมายถึงอะไร ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหรือไม่


โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปคิดเอา ใครควรจะเสียสละ เพราะตนเสียสละ เพื่อไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ ตนเสียงเดียว เดี๋ยวขอให้เพื่อไทยดำเนินการดีกว่า อย่าถามอะไรมาก


เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องเสียสละหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คุณไปดูเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ใครได้คะแนนมากที่สุด พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ครับ แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังชิงจัดตั้งรัฐบาลเลย คราวนี้พรรคก้าวไกลได้ที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทยได้ที่สอง เพื่อไทยเค้ายังไม่แย่งพรรคก้าวไกลจัดเลย เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วย เมื่อเขามีโอกาสต้องช่วยเขา


เมื่อถามว่าจะไม่ทำให้หลักการบิดเบี้ยวหรือ พล.ต.อ.สรีพิศุทธ์ ย้อนถามว่า คุณต้องการอะไร ต้องการบริหารประเทศใช่หรือไม่ ครั้งที่แล้วคุณประยุทธ์ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ยังยกกระทรวงสำคัญให้ภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์เลย

เมื่อถามว่าพูดแบบนี้ไม่กลัวพรรคก้าวไกลโกรธใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่กลัวหรอก พูดความจริง และพูดด้วยความรัก

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลต้องไม่แตะ ม.112 เลยใช่หรือไม่ ถึงจะอยู่ร่วม 8 พรรคได้ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า แค่บอกไม่แตะมันก็ไม่ได้ เพราะมันติดตราตรึงใจไปแล้ว มันไปไม่ได้หรอก

เมื่อถามย้ำ แสดงว่าแนวทางน่าจะออกมาเป็นแนวทางที่ 3 ใช่หรือไม่ คือไม่มีพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่มี มีแต่ไม่ต้องไปโชว์  เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีแต่ไม่ต้องไปโชว์คือยังไง คุณเสรีพิศุทธ์ บอกว่า "ระดับผู้สื่อข่าวไม่ต้องบอกก็คิดเองได้”



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/5iej5HJJUJg

คุณอาจสนใจ

Related News