เลือกตั้งและการเมือง

'สุทิน' เผย 3 แผน เพื่อไทยตั้งรัฐบาล - 'จตุพร' ขอเพื่อไทยจับมือก้าวไกลไว้ ถ้าข้ามขั้วโดนปิดฉากทันที

โดย nattachat_c

21 ก.ค. 2566

363 views

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เผย 3 แผนเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ต่อ รายการ 'ลุยชนข่าว' ของ ช่อง 8 ดังนี้


สูตรที่หนึ่ง

กอดกัน 8 พรรค กอดก้าวไกลไว้ เดินหน้าไม่ได้ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน เนื่องจากถ้าก้าวไกลไม่ลดเงื่อนไข สว. เขาก็ไม่เลือก ยังไงก็ไม่ผ่าน ก็กอดกันเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งทางนี้อาจจะทำลายความคาดหวังของประชาชน


สูตรที่สอง

8 พรรค ยังเดินหน้าเป็นรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ แต่ต้องพยายามเจรจาทั้งสองฝ่ายให้ลดเงื่อนไข รพรคก้าวไกลต้องยอมถอยเรื่องการแก้ไข ม.112 และ สว.ต้องลดเงื่อนเรื่องไม่มีพรรคก้าวไกล


สูตรที่สาม

เพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่ต้องแยกทางกับพรรคก้าวไกล เอาพรรคอื่นมาเติมแทน ซึ่งไม่มีใครแล้วนอกจากขั้วรัฐบาลเดิม แต่อาจจะต้องยอมเจ็บตัว ต้องเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้งตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ จะปล่อยให้ฝ่ายโน่นสืบทอดอำนาจไม่ได้ เราจะไม่ได้เสียทุกอย่าง แต่มีข้อได้ด้วย


แยกทางกับก้าวไกล เป็นทางที่เราไม่อยากทำ เป็นทางที่เราลำบากใจที่สุด และไม่อยากให้ถึงวันนั้น แต่หากมันจำเป็นต้องถึง สำคัญที่สุดจะทำอะไรก็แล้วแต่ เพื่อไทยต้องฟังเสียงประชาชนมากที่สุด ฟังเสียงผู้ชุมนุม และผู้ที่ไม่ได้มาชุมนุม และก็ฟังเสียงเพื่อนสมาชิก


เมื่อถามว่าหากเป็นทางเลือกที่ 3 พรรคก้าวไกลจะยอมถอยออกไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า อ่านใจเขายากและเห็นใจเขาด้วย แต่จะเลือกทางไหนจะต้องฟังเสียงประชาชน จากนั้นต้องไปพูดคุยในพรรคเพื่อไทย และพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเลือกทางไหน ภายในวันที่ 26 กรกฎาคม และ เชื่อว่าวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ทุกอย่างน่าจะจบมีรัฐบาลใหม่ได้

---------------

เพจ Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ได้โพสต์ข้อความ ดังนี้ 


“จตุพร”ขอเพื่อไทยกับก้าวไกล ร่วมจับมือกันไว้ แล้วเดินไปให้สุดทางอย่างมั่นคง มุ่งรักษาสัญญากับ ปชช. ไม่ตระบัดสัตย์ อย่าอ้างเหตุ ศก.ปากท้องข้ามขั้ว เชื่อเกมอำนาจออกแบบให้เสียง 188 ผนึก ส.ว. 250 เสียงปิดล้อมฝ่าย 312 เสียง ยั่วยุบีบกดให้ทำลายกันหรือเลือกสลับข้าง ระบุวันใดเพื่อไทยไปจับมือกับลุง ปชช.ออกมาเต็มถนน แล้วจะรู้ว่า นรกมีจริง


เมื่อ 20 ก.ค. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เริ่มยก 2" ว่า พรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยต้องจับมือกันให้มั่นคง รักษาสัญญาประชาชนไว้เหนียวแน่น ร่วมเดินหน้าโหวตนายกฯจนสุดทาง ไม่ตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ประชาชนย่อมไม่เดือดดาลลงถนนต่อต้าน ซึ่งความเสียหายครั้งใหญ่ก็ไม่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองเช่นกัน


นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้บ่งบอกถึงการจัดตั้งรัฐบาลแบบซื่อตรงต่อกันแทบไม่มีทางทำได้เลย โดยสูตรตั้งรัฐบาลสำเร็จล้วนต้องหักหลังกันอย่างเดียว เพราะถูกล้อมด้วยเสียงข้างน้อย 188 ผนึกกับ ส.ว. 250 เสียง เพื่อให้พรรค 312 เสียงเลือกทำลายกันเอง หรือจะข้ามขั้วมาจับมือกับอีกฝ่ายตั้งรัฐบาล แต่เชื่อว่า การคิดเช่นนี้ ก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน


"วันนี้ขอให้พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลใจแข็งๆ และจำไว้ว่าตอนเลือกตั้งพูดอะไรไว้กับประชาชน ไม่ใช่เรื่องเอ็มโอยู 8 พรรค และเพื่อไทยอย่ามาอ้างบ้านเมืองมีปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง จึงต้องเร่งตั้งรัฐบาล ซึ่งการอ้างแบบนี้เป็นการปั่นสถานการณ์ เพราะหลังจากนี้ ถ้ามีเหตุวุ่นวายกันจริงๆ แล้ว เศรษฐกิจจะฉิบหายกันหลายเท่าเลย จะบอกให้"


นายจตุพร กล่าวว่า การเป็นนัการเมืองแสวงหาอำนาจโดยการตระบัดสัตย์กับประชาชนนั้น จะอยู่ไม่รอดสักราย บางรัฐบาล ไปทำเรื่องที่ไม่ได้ประกาศไว้กับประชาชน เช่น การนิรโทษกรรมสุดซอย ก็ยังอยู่ไม่ได้ แต่กรณีหาเสียงเลือกตั้งว่า ไม่จับมือกับฝ่ายเผด็จการ ไม่เอาสองลุง ได้ปฎิบัติกันแล้วหรือยัง ดังนั้น หากเริ่มต้นไม่ตรงไปตรงมา ไม่มีความซื่อสัตย์แล้ว ประชาชนจะไว้ใจได้หริอไม่?


"ผมอยากฝากบอกกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ (ที่เตรียมตรวจสอบ เปิดเผยข้อมูลนายเศรษฐา ทวีสิน หากได้เป็นนายกฯ) ว่า ประชาชนต่างมีหน้าที่ ใครมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับว่าที่ผู้ปกครองทั้งหลายที่จะมาเป็นประมุขฝ่ายบริหาร ดูแลเงินภาษีของประชาชนประมาณปีละ 3.5 ล้านล้านบาท จึงต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการทำให้ประเทศไม่ปลอดภัยและเกิดความเสียหาย ดังนั้น ผู้ปกครองหากเป็นของจริง เป็นทองแท้ อย่าได้วิตกกับการตรวจสอบ"


พร้อมกล่าวว่า การโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป แต่ละแคนดิเดตนายกฯ ย่อมมีโอกาสครั้งเดียว ซึ่งนายเศรษฐา ก็รู้ดี และคงจำคำประกาศสัญญาหาเสียงไว้กับประชาชน นอกจากนี้ ตนก็ไม่กลัวอะไรกับเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลด้วย เพราะถ้ามีความชอบธรรม โดยเฉพาะความชอบธรรมกับ 8 พรรคและต่อสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน


นายจตุพร เสนอว่า ประชาชนต้องมีความมั่นคงในหลักยึดมั่น และอย่าให้ใครอ้างเศรษฐกิจปากท้องมาอธิบายจนต้องเสียหลักได้ โดยขอให้ประชาชนคิดกันให้ดีว่า การเสียเวลาอีกไม่กี่วัน กับประเทศต้องฉิบหายไปอีก 9 ปี ดังนั้น จึงต้องอดทนให้ได้ และเฝ้าดูพร้อมบอกเพื่อไทยกับก้าวไกลต้องทนกันให้ได้ด้วย


“ถ้าอดทนจนโหวตครบแคนดิเดตนายกฯ แล้ว ถ้าไม่ย้ายขั้วสลับข้างกัน อีกฝ่าย 188 เสียงก็เป็นรัฐบาลข้างน้อยไม่ได้ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีช่องทางไหนอีกแล้ว จึงขอให้ประชาชนและ 8 พรรคจับมือกันเดินอย่างแข็งแรง มีจิตใจมั่นคงไปด้วยกัน"


นอกจากนี้ หากความอดทนในหลักการได้อย่างเนียวแน่นแล้ว ท้ายสุดย่อมถึงทางตัน ที่ทุกฝ่ายต้องมาเจรจากัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศ โดยนำปัญหาชาติมาหารือ เพื่อตกลงกันให้เสร็จสิ้น แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน พร้อมทั้ง ส.ว.ต้องประกาศให้ชัดเจนจะทำตามเสียงเลือกตั้งของประชาชนด้วย สิ่งนี้เป็นการล้างไพ่กันใหม่


"อย่าไปเอาแต่เสียดายเงิน 6 พันล้านบาทกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา หากตั้งรัฐบาลแล้วไปไม่ได้ก็จะยิ่งเสียกันเป็นล้านล้านบาทเลย และที่สำคัญเมื่อไปกันไม่ได้ แล้วฝืนไปข้ามขั้วตั้งรัฐบาล คนก็จะออกมาเต็มถนน เกิดเผชิญหน้ากับประชาชนอีกฝ่าย ทหารก็เข้ามาจัดการ มีบาดเจ็บ ล้มตาย ซึ่งเห็นกันชัดอยู่แล้วในกระดานนี้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้”


นายจตุพร ย้ำว่า อย่าไปกลัวกับการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะมีการยืนยันมาจากพรรคใหญ่ในฝ่าย 188 เสียงไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ถ้าก้าวไกลกับเพื่อไทยตกลงกันได้ และจับมือร่วมกัน ไม่ไปไหนจากกันแล้ว อีก 6 พรรคที่เหลือก็ไม่ได้หนีไปไหนด้วยเช่นกัน ขอให้จับมือกันให้แข็งแรง ดูว่าฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน


อีกทั้ง กล่าวว่า เมื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตย์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตนายกฯ ไม่ผ่าน 376 แล้ว ทำไมนายเศรษฐา จึงคิดว่าตัวเองต้องผ่านด้วย เมื่อจับมือร่วมกันก็ไม่ผ่านเหมือนกันอยู่แล้ว มาถึง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร โหวตนายกฯ ก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรร่วมมือกัน อย่าแตกแถวไปข้ามขั้ว


"เกมนี้ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเป็นนายกฯ ตั้งรัฐบาล ฝ่าย 312 เสียงควรเดินหน้าเสนอโหวตนายกฯ เมื่อครบหมดทุกคนแล้ว ก็ไม่จำเป้นต้องเสนอใครอีก ฝ่าย 188 เสียงเสนอก็เสนอไป ฝ่าย 312 เสียงอยู่นิ่งๆ งดออกเสียง ซึ่งเล่นไปตามเกมบังคับให้เป็นไป ดังนั้น ถ้ายอมรับจริงใจต่อกันแล้ว ต้องเดินไปให้สุดทาง”


นายจตุพร กล่าวว่า หากเพื่อไทยไม่ข้ามขั้วแล้วคงไม่เสียหายและเดือดร้อนด้วย แต่ถ้าข้ามขั้วจะฉิบหาย ถึงขั้นปิดฉากเพื่อไทยทันที ดังนั้น ในสถานการณ์เปราะบางนี้ เพื่อไทยกับก้าวไกลมีหน้าที่ทำตามสัญญาให้ไว้กับประชาชน เคยสัญญาไว้อย่างไรก็ต้่องทำอย่างนั้นด้วย


"ถ้าวันหนึ่งตระบัดสัตย์ คุณจำปากผมไว้ให้ดี คุณจะไม่เหลือสภาพอะไร ใหญ่กว่าคุณตระบัดสัตย์ยังอยู่ไม่ได้เลย การจัดตั้งภายใต้ทหารหัส 0143 ซึ่งคุมทุกเหล่าทัพตั้งแต่กองร้อย ยันกองพัน กองพล และถึงกองทัพ แค่ตระบัดสัตย์ครั้งเดียวก็อยู่ไม่ได้ แล้วถามว่าคุณเป็นใครในขณะนี้"


รวมทั้ง ย้ำว่า นักการเมืองจะมาพูดเล่นกับประชาชนโดยไม่รับผิดชอบไม่ได้ อย่าคิดว่าการอ้างเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเพื่อตระบัดสัตย์ได้ก็ลองดู แล้วจะรู้ว่า นรกมีจริง นอกจากนี้ ตนไม่ได้กลัวว่า เพื่อไทยจะตระบัดสัตย์เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว แต่เป็นแล้วจะอยู่ได้กี่วัน ซึ่งจะถูกยำเละทุกวันและจะทำอะไรได้


"สิ่งที่ผมพูด กลัวว่าประชาชนจะออกมาเต็มถนน และด้อมส้มจะพูดเรื่อง 112 แต่ประชาชนอีกฝ่ายก็ไม่ทน แล้วออกมาเผชิญหน้ากัน อีกอย่างมวลชนเลือกเพื่อไทยจำนวนมากก็จะไม่ทนด้วย เมื่อคุณคิดเป็นรัฐบาลแล้ว จะมีปัญญามาปราบเขาหรือ? แล้วจะทำอย่างไร ผมเตือนคุณมานานแล้ว วันใดตระบัดสัตย์เจอแน่นอนในฐานะประชาชน"


ส่วนการถอนประกันนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบส้มนั้น นายจตุพร เห็นว่า ตำรวจไม่สมควรกระทำ และไม่มีเหตุต้องถอนด้วย แต่จะเป็นการโหมเร่งสถานการณ์ให้ลุกลามเร็วขึ้น ซึ่งเท่ากับสุมปัญหาให้เกิดสถานการณ์บานปลายไปกันใหญ่

------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/SXunJT2dcMs


คุณอาจสนใจ

Related News