สังคม

อดีตหนุ่มโรงงาน งง ป่วยจิตฯลาออกจากงานได้ 2 ปี รู้อีกทีมีเงินโอนเข้าจำนวนมาก

โดย onjira_n

21 มิ.ย. 2566

788 views

วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย ฉลอง  อายุ 44 ปี อยู่ ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่ ได้พานายสนธยา อายุ 42 ปี อยู่ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นน้องชาย เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.ประเสริญ จันทร์แดง รอง.ผกก.ป.สภ.ท่าตูม เพื่อแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดย นายสนธยา ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทางบริษัทได้พาตน ไปเปิดบัญชีธนาคารไว้ เพื่อสะดวกต่อการโอนจ่ายค่าจ้าง  ซึ่งนายสนธยา ได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัทผ่านบัญชีนี้เรื่อยมา

จนเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ตน มีอาการป่วยทางประสาท จึงได้ลาออกมารักษาอาการป่วยอยู่ที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดได้ระยะหนึ่ง ตนนึกได้ว่า ในบัญชีธนาคารของตนนั้นน่าจะมีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 3,000 บาทเศษ จึงได้ชักชวน นาย ฉลอง (พี่ชาย) ให้พาไปถอนเงินจำนวนดังกล่าว  แต่เมื่อไปถึงทางธนาคาร เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งว่าบัญชีธนาคารของตน ได้ถูกอายัดไว้ จากทางสถานีตำรวจภูธรขมิ้น จ.สกลนคร โดยมี ร.ต.อ.ไพรัช ไม่ทราบนามสกุล เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

ต่อมา นายฉลอง  จึงได้พานายสนธยา เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.ประเสริฐ จันทร์แดง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าตูม เพื่อปรึกษาเรื่องดังกล่าว และประสานไปยัง ร.ต.อ.ไพรัช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สถานีตำรวจภูธรขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับข้อมูลว่า บัญชีของนาย สนธยา ได้ถูกนำไปหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้อื่น โดยให้โอนเงินเข้ามายังบัญชีของนายสนธยา และมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้เยอะ จึงได้สั่งอายัดหมายเลขบัญชีของนายสนธยาไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้มีหมายเรียกถึงนายสนธยา เพื่อไปแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนนำสมุดบัญชี และเอทีเอ็ม ไปหลอกลวงฉ้อโกง แต่อย่างได

นายสนธยา  ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ตนเองลาออกมาจากงานแล้ว ไม่เคยให้ใครยืมบัญชีธนาคาร หรือบัตร เอทีเอ็ม ไปเลย ไม่รู้ว่ามีเม็ดเงินจำนวนมากโอนเข้ามาได้อย่างไร จึงอยากมาแสดงความบริสุทธิ์โดยลงบันทึกประจำ

คุณอาจสนใจ