รวบคาชุดแม่ชี! หญิงเอี่ยวโกง 1.3 พันล้าน มีผู้เสียหายกว่า 3,500 ราย

โกงมโหฬาร! ตร.รวบคาชุดแม่ชี หลอกเหยื่อลงทุนบริหารเช่าพื้นที่บน Cloud  Storage กว่า 3,000 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียหายร้องเรียนกรณีถูกบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud  Storage โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่จนเป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ต่อมาบริษัทฯ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย คือ นายศุภสรร ด้วงชนะ กรรมการบริษัทคอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด และประสาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ซึ่งยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและหลบหนีโดยไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวมีหมายจับของ สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน ซึ่ง DSI อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ คือ นางพัฒนา ด้วงชนะ เป็นมารดาของนายศุภสรร ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด โดยได้หลบหนีตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล IDMB ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด    

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2566 ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ชุด 5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในสถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ข้อมูลว่าเดิมทีเธอเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลังเกษียณลูกชายได้ขอนำชื่อไปเป็นกรรมการในบริษัท โดยที่เธอไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าวนั้นแต่อย่างใด ตลอดจนของให้การอื่นๆ ในชั้นสอบสวนและชั้นการพิจารณาคดีของศาล ทั้งนี้ ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่พบตัวขณะที่ผู้ต้องหาบวชชีและปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม โดยมีอดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกัน ตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการให้ตัวเองนั้นรอดพ้นจากการสืบสวนจับกุมตัวตามหมายจับในคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และหัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนภัยไปยังผู้กระทำผิด อย่าทำศาสนาต้องมัวหมอง โดยใช้การหลบหนีคดีมาบวชหรือปฏิบัติธรรม หากสำนึกผิดจริงๆ ต้องรับโทษทางกฏหมายให้เรียบร้อยก่อน จะไม่ทำให้ศาสนาเสียหาย และหากพบการกระทำผิดหรือขอความช่วยเหลือโปรดแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.