‘วิโรจน์’ ยินดีให้ข้อมูล หากตำรวจเรียกสอบ ‘ส่วยทางหลวง’ แฉพฤติกรรม จนท.ต้นตอวงจรส่วย

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง3 ยินดีให้ข้อมูลปัญหา "ส่วยทางหลวง" ที่เกิดขึ้น กับทางตำรวจ หากมีการเรียกสอบเรื่องนี้

คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องสติกเกอร์ส่วยทางหลวง เปิดเผยถึงการที่ตัวแทนสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประมาณ 30 คน จะเข้าพบว่า เบื้องต้นนั้นหมายกัน วันพรุ่งนี้ เวลา 14.00น. ที่พรรคก้าวไกล ซึ่งจะมีการหารือกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ซึ่งก็มีรายงานด้วยว่า การหารือวันพรุ่งนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจจะมาร่วมหารือด้วย

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะทำงาน โดยสั่งการให้จเรตำรวจทั่วประเทศลงพื้นที่ ไปรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ ตามที่คุณวิโรจน์ ออกมาเปิดโปงนั้น ทางคุณวิโรจน์ บอกว่า ตนยินดีเข้าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และจะนำสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยไปเข้าพบทางตำรวจด้วย หากมีการเรียกเข้าให้ข้อมูล

ยืนยันว่า ตนเอง ตั้งใจเอาจริงเอาจัง จัดการกับเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นปัญหาที่สะสมมานานมากกว่า 10 ปี

นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กของ คุณวิโรจน์ ยังโพสต์ ถึง ต้นตอส่วยทางหลวง โดยบอกว่า ปัญหาส่วยทางหลวงไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เป็นปัญหาใหญ่ มีมานานหลายสิบปี มูลค่าการทุจริตคอร์รัปชั่น สูงในระดับหมื่นล้านบาทและกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ เพราะเมื่อผู้ประกอบการต้องจ่ายส่วย ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น

คุณวิโรจน์ ระบุด้วยว่า ต้นเหตุของปัญหาส่วยทางหลวง จุดเริ่มต้นอยู่ที่ข้าราชการของกรมทางหลวง บางคน ตำรวจท้องที่ และตำรวจทางหลวงบางนาย อาศัยช่องว่างทางกฎหมายไปรังควานผู้ประกอบกิจการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น การตรวจควันดำ ตรวจเสียง การตั้งด่านตราชั่งลอยเพื่อชั่งน้ำหนัก การเดินตรวจรอบรถแบบจุกจิกเพื่อหาเรื่องปรับ การเรียกตรวจพนักงานขับรถ ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งเสียเวลาทำมาหากิน

พฤติกรรมรังควานแบบนี้ เป็นเหตุให้เกิดขาใหญ่ ซึ่งอาจเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ทำหน้าที่เป็นโต้โผเอาส่วยแบบเหมาจ่ายไปเคลียร์กับข้าราชการบางคน ตำรวจบางนาย แล้วมาผลิตสติ๊กเกอร์ขายให้กับผู้ประกอบกิจการขนส่งรายอื่นๆ พอเจ้าหน้าที่เห็นสติ๊กเกอร์ ก็เป็นอันรู้กัน รถบรรทุกเหล่านี้เถ้าแก่ส่งส่วยเรียบร้อยแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/2fPCfXsc1JU