สังคม

ยาย 78 ป่วยเบาหวานต้องตัดนิ้วเท้า ไร้บัตร ปชช. ไร้สิทธิ์รักษา นอนติดเตียง 2 ปีแผลเริ่มเน่า จนท.เร่งช่วยเหลือ

โดย panisa_p

19 พ.ค. 2566

84 views

วันที่ 19 พ.ค. 66 ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.สมจิตร สิงห์สุวรรณ อายุ 61 ปี ขอความช่วยเหลือหญิงชราวัย 78 ปี ป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นโรคเบาหวาน และไม่มีบัตรประชาชน จึงไม่สามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลได้


ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ จากการลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว พบยายติ๋ม นอนอยู่ในบ้านตามลำพัง เท้าข้างซ้ายถูกตัดนิ้ว แผลเริ่มเน่า นอกจากนี้ที่ขาข้างซ้ายยังมีแผลขนาดใหญ่ ที่ก้นมีแผลกดทับ เนื่องจากเดินไม่ได้ เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามยายติ๋ม ซึ่งพูดจาได้แต่เหมือนคนเพ้อ ภายในบ้านมีกลิ่นปัสสาวะ เนื่องจากคุณยายติ๋มจะนอนปัสสาวะและอุจจาระบนที่นอน ในระหว่างที่นายรอด อายุ 81 ปี สามีออกไปทำงาน เป็นคนสวนที่บริษัทแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังไม่พบเอกสารแสดงตัวตนยายติ๋ม ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีเลข 13 หลักเพื่อยืนยันตัวตน


สอบถามจากเพื่อนบ้าน ทราบว่า ยายติ๋มนอนป่วยแบบนี้มานานประมาณ 3 ปีแล้ว เนื่องจากป่วยเป็นเบาหวาน และไม่ได้กินยา ทำให้ยายต้องอยู่ในสภาพนี้ นอนฉี่นอนอึเรี่ยราด เพราะไม่สามารถลุกเดินได้ด้วยตัวเอง ครั้งสุดท้ายที่ยายไปหาหมอคือประมาณ 2 ปีที่แล้ว ต้องตัดนิ้วเท้า นอนรักษาตัวอยู่ 21 วัน มีค่ารักษา 18,000 บาท แต่ยายไม่มีเงินจ่าย ทางเจ้านายของสามียายช่วยค่ารักษา 10,000 บาท ติดค่ารักษาไว้อีก 8,000 บาท สาเหตุเพราะคุณยายไม่มีบัตรประชาชน หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็นอนติดเตียงแบบนี้มาตลอด 


น.ส.สมจิตร กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้ยายติ๋มให้มีบัตรประชาชน จะได้สามารถรักษาตัวได้ตามสิทธิ์ ยายติ๋มจะได้ดีขึ้น ชื่อจริง นามสกุลจริงตนก็ไม่รู้ สามีคนนี้ก็เป็นสามีใหม่ ไม่รู้ที่มาดั้งเดิมของยาย ลูกยายมี 2 คน เมื่อสมัยก่อนก็มีมาหาบ้าง แต่พอมาแล้วก็มาขอเงินยายกลับ หลังจากยายเข้ารักษาที่โรงพยาบาลไม่เคยเห็นลูกยายมาอีกเลย ตอนนี้ยายไม่ได้ไปหาหมอรักษามา 2 ปีกว่าแล้ว 


เบื้องต้นหน่วยงานที่ลงตรวจสอบ พม.จ.นนทบุรี นำเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ พร้อมทั้งตรวจสอบอาการป่วย ซึ่งพบว่าอาการเริ่มหนัก เพราะนอกจากเป็นเบาหวาน ติดเตียงแล้ว ยายติ๋มไม่อุจจาระมานานกว่า 1 เดือน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.ชลประทานปากเกร็ด เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษา โดยใช้สิทธิ์สังคมสงเคราะห์ ส่วนเรื่องบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ด ได้ทำการตรวจสอบประวัติ พร้อมทั้งสืบค้นหาญาติ เพื่อหาประวัติตัวตนและเลข 13 หลัก เพื่อดำเนินการทำบัตรประชาชนต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News