เลือกตั้งและการเมือง

จับซื้อเสียงรัวๆ 3 จังหวัด โดนทั้ง อสม.-ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยึดโพยรายชื่อ-เงินสด

โดย passamon_a

14 พ.ค. 2566

234 views

จับซื้อเสียง 3 จังหวัด กาญจนบุรี-พิจิตร-อยุธยา โดนทั้ง อสม.-ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยึดโพยรายชื่อ และเงินสด    


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 ที่ผ่านมา มีคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่อ้างว่าเป็นปฏิบัติการเข้าตรวจค้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 โดยในคลิปเป็นภาพของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเฝ้าระวังการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เข้าตรวจค้นจับกุมหญิงรายหนึ่ง ที่เป็น อสม. ในเขตพื้นที่ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี


โดยเป็นปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสว่าหญิงคนดังกล่าว รับหน้าที่นำเงินจากหัวคะแนนของผู้สมัครพรรคใหญ่รายหนึ่ง ของเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่มีรายชื่อตามโพยรายชื่อรับเงิน


ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้น หญิงคนดังกล่าวพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ ด้วยเงินจำนวน 3,000 บาท แลกกับการไม่จับกุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม และได้เข้าไปตรวจหากระเป๋าที่บรรจุเงินและโพยรายชื่อ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านจนพบ


หลังปฏิบัติการตรวจพบ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงคนดังกล่าว พร้อมโพยรายชื่อและเงินของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้น ทราบว่า คลิปดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่หมู่บ้านวังยาง หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 8 พ.ค.66 ผู้หญิงในภาพคือ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 61 ปี อาชีพรับจ้าง เป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่โรงเรียนศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง โดยเป็น อสม.ประจำหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกจับกุม เมื่อมีการตรวจค้นในบ้านพักพบกระเป๋าถือสีแดง โดยในกระเป๋าตรวจพบเอกสารโพยรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง จำนวน 28 แผ่น และพบเงินสด 71,000 บาท


นางเอ ให้การต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ก่อนเกิดเหตุ จำวันเวลาไม่ได้ ขณะที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักอาศัย ได้มีผู้ใหญ่อ้อย มาติดต่อให้ช่วยผู้สมัคร ส.ส.รายหนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ใหญ่อ้อยได้โทรศัพท์มาหาตน แจ้งว่า จะนำเงินพร้อมรายชื่อมาให้ และจะให้ค่าตอบแทนหัวละ 30 บาท โดยยังไม่แจ้งแน่ชัดว่าให้นำเงินเท่าไร และจะนำเงินมาให้จำนวนเท่าใด


ต่อมาวันที่ 8 พ.ค.66 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่ตนอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวห่างจากบ้านประมาณ 20-30 เมตร ผู้ใหญ่อ้อยได้โทรศัพท์ติดต่อหาตน และได้สอบถามว่าอยู่บ้านไหม จะให้คนนำเงินมาให้ จากนั้นไม่นานประมาณ 10-15 นาที ได้มีชายสวมหมวกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว และแวะบริเวณหน้าบ้านพักของตน และเดินไปรถจักรยานยนต์และนำถุงพลาสติกไปแขวนไว้ที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้าน ตนเห็นดังนั้นจึงเดินจากร้านก๋วยเตี๋ยว มาที่บ้านพัก


เมื่อเดินมาถึง ชายคนดังกล่าวได้ทำท่าชี้ไปที่รถจักรยานยนต์ของตน และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทันที ตนจึงได้ไปหยิบถุงพลาสติกที่แขวนไว้ที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ และได้เปิดถุงพลาสติกดู ปรากฏว่าเป็นเงินสดจำนวนหนึ่งไม่ทราบว่าจำนวนเท่าใด พร้อมบัญชีรายชื่อ จากนั้นจึงได้นำเงินและบัญชีรายชื่อมาใส่ไว้ในกระเป๋าถือลายนกฮูกสีแดง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามว่า เงินพร้อมบัญชีรายชื่อว่าได้มาอย่างไร ตนจึงได้แจ้งรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น ให้เจ้าหน้าที่ทราบ เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง ให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตนจึงได้สมัครใจมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ตนจึงเงินที่นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน เป็นเงินจำนวน 71,000 บาท พร้อมบัญชีรายชื่อ 28 แผ่น มอบให้กับพนักงานสอบสวน และให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใหญ่อ้อยที่ใช้ติดต่อกับมายังตนกับพนักงานสอบสวนแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 นางเอได้เดินทางเข้าพบเจ้าพนักงานกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานถึงแหล่งที่มาของเงินว่ามาจากหัวคะแนนของผู้สมัครรายใด เพื่อจะได้ทำการสอบสวนขยายผลเอาผิดไปถึงหัวคะแนน และหากผลการสืบสวนมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้สมัครก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายการเลือกตั้งต่อไป


อีกเคสที่ จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 ตำรวจ สภ.หนองโสน อ.สามง่ามจ.พิจิตร ได้สอบสวน นางศรีไพร อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หน่วยที่ 1 ตำบลหนองโสน และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลหนองโสน ฐานกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับ พรบ.เลือกตั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยมีคลิปเหตุการณ์เป็นหลักฐานสำคัญ รวมถึงรายชื่อ และธนบัตร แบ่งเป็นธนบัตรฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 5 ใบ และเป็นธนบัตรฉบับละ 5 ร้อยบาท อีกจำนวน 8 ใบ รวม 9,000 บาท ในการซื้อสิทธิ์ขายเสียง


ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อช่วงเย็น วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพลเมืองดีทนเห็นเหตุการณ์การซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างโจ๋งครึ่ม บริเวณร้านค้าชุมชนที่มีคนพุกพล่านเดินเข้าออกอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลหนองโสน และกลุ่มพลเมืองดีจึงช่วยกันควบคุมตัวพร้อมหลักฐานส่งตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยเบื้องต้น นางศรีไพร ยอมรับว่า ตนเองได้รับเงินสดดังกล่าว มาจากพรรคการเมืองหนึ่ง เขตเลือกตั้งที่ 1 เพื่อนำมาจ่ายลูกบ้านเสียงละ 1,000 บาท ในช่วงขณะที่พลเมืองดีเข้าควบคุมตัวส่งตำรวจนั้น ตนเองกำลังนำเงินจำนวน 9 พันบาท พร้อมบัญชีรายชื่อลูกบ้าน มาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองโสน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมหลักฐานพร้อมกับสำนวนการสอบสวนส่งให้ศาลจังหวัดและคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


โดย นายคณาทิป แสงโคตร์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดพิจิตร เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ในเรื่องดังกล่าว กกต. ได้รับข้อมูลจากสถานีตำรวจภูธรหนองโสนแล้ว และได้รายงานให้กับคณะกรรมการเลือกตั้งกลางทราบแล้ว ในส่วนของคดีซึ่งเป็นคดีอาญา ก็ได้ให้สถานีตำรวจภูธรหนองโสนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ส่วนที่ จ.อยุธยา กรณีทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้รับคลิปและภาพ จากพลเมืองดีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งว่ามีเหตุการณ์การซื้อเสียง โดยพบคุณป้าคนหนึ่ง ถือเงินสด แบงก์ 500 จำนวหนึ่ง และกระดาษรายชื่อ


ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ กกต. จึงสอบถาม คุณป้าให้การว่า มีคนนำมาให้หลาน โดยเป็นผู้สมัครพรรคหนึ่ง ส่วนเรื่องเงินไม่รู้ รู้แค่ว่าจะนำเงินไปให้หลาน ทั้งนี้ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำ และยึดของกลางไปตรวจสอบ


ขณะเดียวกัน ผู้สมัครที่ถูกกล่าวหา อ้างว่านำเงินไปให้หญิงรายนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการซื้อเสียง และไม่เคยทำ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการใส่ร้าย น่าจะมีการจัดฉากหวังดิสเครดิต โค้งสุดการเลือกตั้ง เบื้องต้นได้มอบหมายให้ทนายเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้เผยแพร่คลิปดังกล่าว และบุคคลในคลิปไว้แล้ว รวมทั้ง พรบ.คอมพิวเตอร์ด้วย




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wz65uNH8-DQ


คุณอาจสนใจ

Related News