สังคม

คนดูแลร้าน 'ผู้กองเบิร์ด' ยันรถ-ทะเบียนไม่เกี่ยว 'อดีต ผกก.โจ้' เร่งรวมหลักฐานสู้ 'อัจฉริยะ'

โดย panwilai_c

6 เม.ย. 2566

92 views

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านล้างรถ ที่ระบุว่าเป็นของ "ผู้กองเบิร์ด" ลูกชายของ รอง เลขาธิการ ปปง. แม้จะไม่เจอตัว แต่คนดูแลร้านยืนยันทั้งรถและทะเบียน ไม่เกี่ยวข้องกับ "อดีตผู้กำกับโจ้" แน่นอน



หลังจากเมื่อวานนี้ (5เม.ย.) นาย อัจฉริยะ ออกมาเปิดเผยว่า พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยคดีถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต เมื่อปี 2564 มอบหมายให้มาดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. และร้อยตำรวจเอก ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ หรือ ผู้กองเบิร์ด ลูกชาย รวมถึงทนายความส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ร่วมกัน นำรถยนต์ 13 คัน ซึ่งแต่ละคันติดป้ายทะเบียนราคาแพงของอดีตผู้กำกับโจ้ไปขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เสียหายกว่า 25 ล้านบาท



วันนี้ (6เม.ย.) ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจร้าน ของผู้กองเบิร์ด ย่านรัชดาภิเษก เพื่อที่จะสอบถามข้อเท็จจริงถึงประเด็นที่เกิดขึ้น พบว่าร้านอยู่ติดริมถนน ด้านในเปิดให้บริการล้างรถ แต่ขึ้นป้ายรับซื้อขายรถยนต์มือสองด้วย



ทีมข่าวถามหาผู้กองเบิร์ด แต่ผู้ดูแลและพนักงานของร้าน แจ้งว่าผู้กองเบิร์ดไม่ค่อยเข้าร้านในวันธรรมดา แต่จะเข้าร้านวันหยุดสุดสัปดาห์ ทีมข่าวจึงสอบถามเรื่องรถยนต์ 3 คัน ที่ นาย อัจฉริยะ นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชนว่า เป็นของอดีตผู้กำกับโจ้ คือ รถโฟล์คสีเหลือง / รถปอร์เช่ สีดำ / รถBMW สีขาวซีรีย์ 5 แต่นำป้ายทะเบียน งจ 5151 ของผู้กองเบิร์ดมาสวมแทน



รวมถึงรถเบนซ์สีบรอนทอง ซึ่งอ้างว่าเป็นของ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ก็ถูกนำมาใส่ทะเบียน ภฐ 5050 ซึ่งเป็นของอดีตผู้กำกับโจ้ ด้วย เป็นความจริงหรือไม่



ซึ่งทางผู้ดูแลร้าน ยืนยันว่า รถทั้งหมดไม่ใช่ของอดีตผู้กำกับโจ้ อย่างรถโฟล์คสีเหลือง ผู้กองเบิร์ดซื้อมาก่อนปี 2564 เมื่อดูในเฟซบุ๊ก จะเห็นว่ารถคันนี้ถูกนำมาขายตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 และขายไปวันที่ 4 มีนาคม 2564



ส่วนรถ BMW สีขาว ซีรีส์ 5 โพสต์ขายตั้งแต่ 18 เมษายน 2563 ซึ่งก่อนจะเกิดคดีอดีตผู้กำกับโจ้ด้วยซ้ำ ขณะที่รถของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็น BMW เป็นซีรีส์ 7



ส่วนรถเบนซ์ เลขทะเบียน ภฐ 5050 ทีมข่าวพบว่ายังจอดอยู่ที่ร้านล้างรถ ซึ่งผู้ดูแลร้าน ให้ข้อมูลว่า เป็นรถที่ลูกค้านำมาฝากขายเมื่อ 3 เดือนก่อน ไม่ใช่รถของพ่อผู้กองเบิร์ด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีต ผู้กำกับโจ้ ส่วนปอร์เช่สีดำ ต้องให้ผู้กองเบิร์ดมาชี้แจงเอง



ส่วนทะเบียนรถที่ติดรถทุกคัน ยืนยันว่า เป็นป้ายทะเบียนสวยมีมูลค่าสูง และผู้กองเบิร์ดประมูลซื้อมาเอง พอลูกค้ามาซื้อรถ แต่ไม่ซื้อป้ายทะเบียน ทำให้ป้ายวนไปติดตามรถคันอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการสวมทะเบียน ซึ่งตอนนี้ ผู้กองเบิร์ด กำลังรวบรวมพยานฐานต่าง ๆ มาต่อสู้ข้อกล่าวหาของนาย อัจฉริยะ



และจนถึงตอนนี้ทีมข่าวช่อง 3 พยายามติดต่อ ผู้กองเบิร์ด เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้



ด้าน พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 เรื่องทะเบียนรถของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่มีชื่อของเขาครอบครองว่า เป็นเพราะขายรถได้ แต่คนซื้อไม่เอาทะเบียนจึงต้องมาใส่ชื่อเขาเอาไว้ก่อนเท่านั้น



และอีก 1 ประเด็นที่นาย อัจฉริยะ นำมาเปิดเผยคือ ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกที่ระบุว่า มีรถตู้ BENZ VITO ใช้ทะเบียน อต 55 ซึ่งเป็นทะเบียนรถของอดีตผู้กำกับโจ้ แต่ในข้อมูลระบุชื่อกรรมสิทธิ์เป็นชื่อพลตำรวจตรี เอกรักษ์ ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ชี้แจงว่า รถตู้ BENZ VITO คันดังกล่าว เป็นรถของเขาจริง แต่ที่ใส่ทะเบียนของอดีตผู้กำกับโจ้ เพราะได้ขายรถยี่โฟล์คสวาเก้น คาราเวล ของอดีตผู้กำกับโจ้ที่ใส่ทะเบียนนี้ไป แต่ไม่ได้ขายทะเบียนไปด้วย จึงต้องหารถมาใส่ทะเบียนแทน จึงนำรถของตัวเองมาใส่ก่อน แต่หากจะถอดออกต้องรอครบ 1 ปีก่อน เพราะเป็นป้ายขาว ไม่ใช่ป้ายประมูลที่ทำสงวนได้



พร้อมยืนยันว่ารถ 13 คัน ที่ขายไป ขายอย่างถูกต้อง เพราะตอนนั้นยังไม่มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ เพราะอดีตผู้กำกับโจ้ยังไม่ถูกตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน เพิ่งจะมาโดน ป.ป.ช. ชี้มูล ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งได้ตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบก ก็ยืนยันว่าถ้ามีเอกสารก็โอนได้ จึงดำเนินการขายให้ ส่วนเงินก็ให้กับแฟนสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ในขณะนั้นไป



หลังจาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ ของอดีตผู้กำกับโจ้ และให้ยึดอายัดรถ เขายังช่วยจ่ายเงินให้กับคนที่ซื้อรถไปแทน และนำรถกลับมา จากนั้นติดต่อกับน้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ ให้มารับคืนไป ซึ่งเขามารับคืนแค่ 4 คัน ที่ยังขายไม่ได้ ยังไม่รวมกับ 13 คันที่ขายออกไปก่อนหน้านี้ และจนถึงขณะนี้ก็ยังช่วยเก็บรักษารถไว้ให้รอศาลสั่ง



สำหรับโดยข้อมูลที่นาย อัจฉริยะ นำไปแจ้งความ ก็จะรอให้ตำรวจเรียกไปชี้แจง มีคันไหนที่ตรงกันก็อธิบายได้ แต่คันไหนไม่เกี่ยวก็จะบอกว่าไม่เกี่ยว


https://youtu.be/ahi_cB0R28g

คุณอาจสนใจ

Related News