"อัจฉริยะ" ฟ้อง "ทนายตั้ม" ฐานกลั่นแกล้ง แจ้งความเท็จดักฟังโทรศัพท์

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 3 เม.ย. 67 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปยังศาลแขวงปทุมวัน เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ในกรณีกล่าวหาว่าดักฟังโทรศัพท์ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นความเท็จ



โดยนายอัจฉริยะระบุว่า การฟ้องคดีในวันนี้นั้น เนื่องจากตนถูกทนายตั้มแจ้งความกล่าวหาว่าตนดักฟังเสียงโทรศัพท์ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สน.ปทุมวัน กรุงเทพ // จังหวัดพิจิตร // ราชบุรี // และสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2561



ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาว่า ตนดักฟังเสียงโทรศัพท์ระหว่างที่ทนายตั้มสนทนากับเจ้าของร้านอาหารทะเลในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเรื่องค่าทนายความ โดยเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะเนื่องจากเจ้าของร้านอาหารนั้นเป็นคนอัดเสียงระหว่างสนทนากับทนายตั้มด้วยตนเองแล้วส่งมาให้ตน โดยมีภาพวงจรปิดในร้านอาหารที่เห็นได้ชัดว่า ไม่มีพฤติการณ์ที่ตนดักฟังการสนทนาระหว่างทนายตั้มและเจ้าของร้านอาหารแต่อย่างใด จึงไม่ถือว่าตนมีความผิด



อีกทั้งทนายตั้มเลือกที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีตนในต่างจังหวัด เพื่อให้ตนไม่ได้รับความสะดวกในการต่อสู้คดี จึงถือว่าเป็นการแจ้งความกลั่นแกล้งตน โดยในคดีนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องตามที่ทนายตั้มยื่นและคดีถึงที่สุดแล้ว



เพื่อความเป็นธรรมแก่ตนเอง จึงใช้สิทธิ์ทางกฎหมายที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับทนายตั้มในข้อหากลั่นแกล้งผู้อื่นรับผิดทางอาญา โดยที่ผ่านมาตนได้ไปยื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดพิจิตรแล้ว ก่อนจะมายื่นที่ศาลแขวงปทุมวันในวันนี้ และไปยื่นที่จะไปยื่นฟ้องศาลจังหวัดราชบุรีในวันพรุ่งนี้ และศาลจังหวัดสุโขทัยในสิ้นเดือน



นายอัจฉริยะกล่าวยืนยันว่า การฟ้องร้องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับนายตั้ม ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ทนายตั้มออกมาเคลื่อนไหวในคดีที่เกี่ยวข้องกับนายตำรวจในช่วงเวลานี้ อีกทั้งตอนนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการยื่นถอนฟ้องกับทนายตั้มแล้ว จึงถือว่าตนหมดอำนาจในเรื่องนี้และไม่มีบทบาทในความขัดแย้งของนายตำรวจอีกต่อไป