สังคม

'ทนายตั้ม' สวน 'อัจฉริยะ' หลังเป็นตัวแทน 'บิ๊กต่อ' ฟ้องหมิ่นฯ ลั่นไม่มีหลักฐานใครจะกล้า

โดย panwilai_c

29 มี.ค. 2567

36 views

ความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวเนื่องจากกรณี นายษิทรา หรือทนายตั้ม ออกมาเปิดข้อมูลส่วย เเละพาดพิงไปถึงนายตำรวจระดับสูง ล่าสุด พลตำรวจ เอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ตั้งทนายความฟ้อง 'นายษิทรา' ฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยืนยันว่าข้อมูลที่นำมาเเถลงเป็นเรื่องเท็จ จากนี้จะไม่มีไกล่เกลี่ยหรือถอนฟ้องแน่นอน



การยื่นฟ้องครั้งนี้ มีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งอ้างว่าได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล มายื่นฟ้อง พร้อมเเสดงเอกสารการแต่งตั้งมาให้ผู้สื่อข่าวดู ทำหน้าที่หลักก็คือ จัดหาทนายความและแถลงข่าว



โดยหัวหน้าทีมทนายความก็คือ นายศิริพงษ์ พงษ์พันธุ์สุข อดีตอัยการศาลสูงภาคหนึ่ง จะยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีไปแถลงข่าวเรื่องส่วยในองค์กรตำรวจ แล้วพาดพิงถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เบื้องต้นศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 มิถุนายน เวลาบ่ายโมงครึ่ง เเละพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเดินทางมาไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกด้วยตัวเอง



นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ผบ.ตร.และครอบครัวยินดีเข้ารับการตรวจสอบ เเละยินดีให้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึงยินดีจะให้ข้อมูลกับชุดตรวจสอบของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย แต่ขอให้ดำเนินการในชั้นศาล ซึ่งนายษิทรามีสิทธิ์ถามค้านหรือสู้ได้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีความผิดเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า เเละยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม



ส่วนการฟ้องครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการฟ้องร้องเพื่อแก้เกี้ยว เพราะจะไม่มีการต่อรองไกล่เกลี่ย และจะฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน มากถึง 5 ล้านบาทด้วย



ส่วนหลักฐานเส้นเงินที่"นายษิทรา"นำมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ บอกว่า หลักฐานได้มาโดยมิชอบ เพราะมีการใช้ตำรวจ เจ้าหน้าที่เขต และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ไปล้วงข้อมูลส่วนตัวในทะเบียนราษฎร์ ของผบ.ตร.และครอบครัว โดยมีข้อมูลว่าเจาะเข้าไปดูข้อมูลของผบ.ตร.มากถึง 20 ครั้ง ภรรยาของผบ.ตร. 40 ครั้ง รวมถึงเข้าไปในระบบเพื่อดูข้อมูล พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านอื่นด้วย ตั้งแต่ช่วงปี 2566-2567 จึงเชื่อว่าเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐทำงานกันเป็นขบวนการ เพื่อให้ได้ข้อมูลเหล่านี้มา



ขณะที่ นายศิริพงษ์ หัวหน้าทีมทนายความ บอกว่า จากหลักฐานที่นายษิทรานำมาแถลง เป็นเพียงการสร้างหลักฐานเท็จ หากมีข้อมูลจริงก็ควรไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาแล้ว หากพบว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผยและให้ตรวจสอบ เป็นข้อมูลโดยมิชอบ ตามหลักทางกฎหมายแล้วก็ไม่สามารถใช้ในการดำเนินคดีใด ๆได้ ต้องไปขอหลักฐานใหม่จากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างถูกต้องก่อน พร้อมยืนยันว่า ทีมทนายความมั่นใจในพยานหลักฐาน สามารถต่อสู้คดีได้



ส่วนความเคลื่อนไหวของนายษิทรา บ่ายวันนี้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ข้อความช่วงหนึ่ง ระบุในทำนองว่า "นายอัจฉริยะพูดเหมือนหนังการ์ตูน คดีแบบนี้ถ้าไม่เป็นข่าวดัง ตำรวจตัวเล็กตัวน้อยที่ไหนจะกล้ารับทำคดี นายอัจฉริยะบอกว่าพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักฐาน แต่นายษิทราบอกว่า เขาเป็นทนายไม่ใช่ทะแนะ การที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตระดับชาติขนาดนี้ ถ้าไม่มีข้อมูลใครจะกล้า ในโพสต์ยังสวนกลับไปอีกว่า ตัวนายอัจฉริยะเองก็เปิด ๆ ปิด ๆ มาตลอดชีวิต น่าจะเข้าใจดี ก็น่าแปลกใจที่ประชาชนธรรมดามาออกตัวแทนตำรวจยศใหญ่ระดับนั้น เรียนตามตรง ว่าไม่เคยเห็น"



ส่วนความคืบหน้าคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล วันนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันว่าคดีกล่าวหา พล.ต.สุรเชษฐ์ ทางป.ป.ช.ได้พิจารณาไปแล้วว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวน และตรวจสอบได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง มีการกล่าวหาผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าผู้ร้อง จึงเรียกสำนวนให้ส่งมาที่ ป.ป.ช.ดำเนินการ



แต่ตอนนี้ ป.ป.ช. ยังไม่ได้รับสำนวนใด ๆ ทำให้ยังไม่สามารถพิจารณาได้ หลังจากนี้หากได้รับมาแล้ว ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบไปตามขั้นตอน



ประธาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า ไม่หนักใจในการทำคดี แม้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะเป็นตำรวจรุ่นน้อง เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน และต้องให้ความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และป.ป.ช.จะต้องทำให้ชัดเจนและมีความโปร่งใส



ส่วนกรณีที่ นายษิทรา ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ประธาน ป.ป.ช. บอกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นข้อมูลมา หากส่งมาป.ป.ช.ก็จะพิจารณา แต่เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว ยังไม่มีข้อมูลมา แม้บางเรื่องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษแต่ข้อมูลยังไม่มาที่ป.ป.ช. ก็ยังไม่สามารถพิจารณาได้

คุณอาจสนใจ

Related News