สังคม

แม่วัย 67 ร้องสื่อลูกอ้างถูกเรียกค่าไถ่ ยอมขายที่นาสูญนับล้านไม่ปล่อยตัว

โดย paranee_s

11 มี.ค. 2566

2.6K views

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต ได้รับเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนจากนางอบมา (สงวนนามสกุล) 67 ปี ชาวบ้านดอนแดง หมู่ 8 ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ว่านี้ทุกข์ใจอย่างมาก เมื่อลูกชายทำงานอยู่ที่จ.ชลบุรี โทรศัพท์มาแจ้งว่าถูกชายฉกรรจ์จับตัวเรียกค่าไถ่ เพราะเป็นหนี้พนันออนไลน์ ผู้เป็นแม่จึงต้องขายที่นา และญาติพี่น้องก็รู้สึกกลัวว่าจะถูกฆ่าตาย ทำให้ต้องส่งเงินให้แล้วเกือบล้านบาท แต่ก็ยังไม่พอ วันนี้ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าถูกจับเรียกค่าไถ่อีกแล้ว ให้รีบโอนเงินมา 120,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ทำให้คนเป็นแม่ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร



โดยมีข้อความที่ลูกชาย ส่งมาให้แม่ดูว่า ให้รีบหาเงินมาให้ ไม่เช่นนั้นเขาจะฆ่าให้ตาย วันนี้ขอ 120,000 บาท นอกจากนี้ น้องชายก็นำรถยนต์ไปจำนำอีก 40,000 บาท ส่งให้ด้วย รวม ๆ แล้วหมดเงินไปแล้ว ล้านบาทเศษ


นางอบมา กล่าวว่า นายสัญญา อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 3 ขณะนี้ทำงานอยู่บริษัทอะไหล่รถยนต์ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ จ.ชลบุรี ลูกชายอ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จับตัวมาเรียกค่าไถ่ ตอนนี้อยู่โกดังร้าง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไม่ได้กินข้าว อยู่ในห้องแคบ ๆ อยากให้หาเงินมาใช้หนี้ เครียดหนักคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีเงินให้ลูกชายแล้ว ตนทุกข์ใจมากทั้งห่วงลูกชาย อีกใจก็คิดว่าลูกชายโกหก อยากได้เงินกับแม่และญาติ ๆ เพราะติดพนันออนไลน์


ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่า ถูกชายฉกรรจ์จับตัวเอาไว้ให้แม่และญาติพี่น้องหาเงินมาใช้หนี้แทน ตนก็ขายที่ดิน 8 ไร่ ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายส่งเงินไปให้ 800,000 บาท ตอนแรกตกใจมาก ทำไมลูกชายเป็นหนี้เยอะขนาดนั้น แต่ทุกคน ทั้งพี่ชาย น้องชาย ก็คิดว่านายสัญญา ถูกจับเรียกค่าไถ่จริง และไม่อยากให้ลูกเป็นอันตราย จึงขายนาและพี่ชายก็หยิบยืมส่งไปให้บัญชีธนาคารของนายสัญญาเอง นึกว่าเรื่องจะจบแล้ว แต่ไม่นานลูกชายก็โทรศัพท์มาอีกว่า ถูกจับอีกแล้ว ให้ส่งเงินมาอีก พี่ชายคนโตทำงานสิงคโปร์ ก็ส่งเงินมาให้ 250,000 บาท


ขณะนี้ตนทุกข์ใจมาก ลูกขอเงินไม่หยุด อ้างว่าถูกเรียกค่าไถ่แล้ว 3 ครั้ง ตนเป็นห่วงลูกชายคิดว่าถูกเรียกค่าไถ่จริง ๆ แต่ใจก็คิดว่าลูกชายโกหก เพราะลูกชายติดการพนันออนไลน์ ตอนนี้ก็ไม่รู้จะขายอะไรอีกแล้ว จึงอยากขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ


“สัญญา ถ้าไม่โกหกแม่ก็ให้กลับมาเป็นคนดีของแม่ คิดถึงหัวอกแม่หน่อย ตอนนี้แม่ไม่มีเงินอีกแล้วลูก แม่ได้สร้างหนี้นะลูก อย่าทำให้แม่ลำบากใจเลย ทำไมหนี้แม่ไม่ได้ก่อต้องมาให้แม่ทำแบบนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกถูกจับเรียกค่าไถ่หรือโกหกแม่ หากถูกจับเรียกค่าไถ่จริง ก็อยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ อยากเดินทางไปดูลูกที่กรุงเทพฯ ว่าเป็นอะไรกันแน่” แม่อบมา ร่ำไห้ปาดน้ำตา


นายวีระพล แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต หลังรับแจ้งจากคุณยายอบมา ว่า ลูกชายถูกจับเรียกค่าไถ่ ต้องขาที่นาสมบัติชิ้นสุดท้าย 8 ไร่ ได้เงิน 800,000 บาท และพี่ ๆ น้อง ๆ ก็ได้หยิบยืมส่งไปให้นายสัญญา จนหมด กล่าวว่า พรุ่งนี้ตนจะพายายไปแจ้งความและประสานขอความช่วยเหลือยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าถูกจับเรียกค่าไถ่จริงหรือไม่ หรือลูกชายโกหกแม่ให้หาเงินทีละมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ยายไม่มีอาชีพอะไร หากโกหกแม่เพื่อเอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ ก็จะได้รู้ข้อเท็จจริง และยายอบมาไม่ต้องโอนเงินให้ลูกชายอีก

คุณอาจสนใจ

Related News