เตรียมฝากขัง 6 ตร.รีดเงินดาราไต้หวัน ฟันข้อหาหนัก โทษสูงสุดประหารชีวิต

เตรียมคุมตัวฝากขัง 6 ตร.ห้วยขวาง เอี่ยวเรียกเงินดาราไต้หวัน แจ้งข้อหาหนัก ม.149 โทษสูงสุดประหารชีวิต

วันนี้ (2 ก.พ. 66) ช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนในคณะทำงานของการดำเนินคดีตำรวจ จาก สน.ห้วยขวาง ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน เตรียมคุมตัว 6 ข้าราชการตำรวจ ไปทฝากขังต่อศาลอาญารัชดา หลังพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายในคดีที่เป็นผู้จ่ายเงินให้กับตำรวจ และผู้เสียหายได้ชี้ตัวตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินในครั้งนี้ได้ทั้ง 6 คน

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 149 คือ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตัวเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท หรือ ประหารชีวิต

สำหรับรายชื่อข้าราชการตำรวจ สน.ห้วยขวาง ที่ถูกแจ้งข้อหาในครั้งนี้ มี 6 ราย ได้แก่ 1.ร้อยตำรวจเอก ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง 2.ร้อยตำรวจเอก ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง 3.ดาบตำรวจ กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ในวันเกิดเหตุ มีปากเสียงกับผู้เสียหาย 4.สิบตำรวจเอก เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง  ในวันเกิดเหตุ ทำหน้าที่คัดเลือกรถเหยื่อ 5.สิบตำรวจเอก วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง ในวันเกิดเหตุ มีปากเสียงกับผู้เสียหาย 6.สิบตำรวจเอก นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ในวันเกิดเหตุ เป็นผู้อยู่นอกเครื่องแบบที่เรียกรับเงินกับทางผู้เสียหายสิงคโปร์ ส่วนดาบตำรวจ อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ที่ปรากฏใน 7 รายชื่อที่ถูกสั่งให้ช่วยราชการ ไม่พบว่ามีรายชื่อที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากในขณะเกิดเหตุไม่อยู่ ออกไประงับเหตุนอกพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในส่วนของตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ถูกแจ้งข้อหาในครั้งนี้ มาจากการที่ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อมูลรวมถึงการสอบปากคำผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีความสอดคล้องกันกับข้อมูลที่คณะทำงานฝ่ายสืบสวนดำเนินการรวบรวมมา จึงทำให้แจ้งข้อหาได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังคงไม่มีนายตำรวจระดับสูงของทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลลงมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารออยู่บริเวณหน้ากองบังคับการสืบสวนสอบสวน ขณะที่ในส่วนของตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มีรายงานว่ายังคงถูกคุมตัวไว้ที่บริเวณชั้น 4 ของอาคาร ที่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรอพบทนายความและครอบครัว ก่อนพนักงานสอบสวนจะดำเนินการคุมตัวฝากขัง