DSI แจ้งข้อหาหนัก อดีตกรรมการ บ.สตาร์คฯ เตรียมนำส่งอัยการพรุ่งนี้-ทนาย ยัน ลูกความถูกข่มขู่คุกคาม

กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อกล่าวหากต่อนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตกรรมการบริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่นแล้ว และเตรียมนำตัวส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษในบ่ายวันพรุ่งนี้ ส่วนทนายความของนายชนินทร์ ยืนยันว่าลูกความของเขาถูกข่มขู่คุกคาม จนต้องหลบหนีไปต่างประเทศ


พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อกล่าวหานายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตกรรมการ บริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ในคดีทุจริต บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด มหาชน ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน, และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 14,778 ล้านบาท


โดยคดีที่นายชนินทร์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมผู้ต้องหาคนอื่นๆนั้น ศาลฯได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.90/2567 โดยผู้ต้องหาคนอื่นที่ถูกส่งฟ้องก่อนหน้านี้ ต่างก็ไม่ได้รับการประกันตัว


ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องนี้เพระเป็นกรณีที่สร้างความสะเทือนขวัญต่อการลงทุน โดยขณะนี้สอบปากคำไปแล้วกว่า 100 ปาก และปปง.ติดตามทรัพย์กลับคืนมาได้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท


คืนนี้นายชนินทร์ ยังถูกควบคุมตัวโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยวันพรุ่งนี้ จะนำตัวส่งพนักงานอัยการคดีพิศษ ซึ่งมีรายงานว่าอัยการผู้รับผิดชอบสำนวน ได้เตรียมร่างคำฟ้องไว้เเล้ว หากได้รับตัวนายชนินทร์มา ก็พร้อมนำตัว พร้อมคำสั่งฟ้องไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาได้ทันที จากนั้นจึงขออนุญาตศาลรวมคดีกับจำเลยที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้


เมื่อเช้านี้นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วยนายแพทย์ ชัยวัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดี DSI ร่วมกันแถลงผลการจับนาย นายชนินทร์ ซึ่งนำตัวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ มาถึงสนามบินสุวรรรภูมิเมื่อเช้านี้


โดยนายจักรพงษ์ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เพราะการทุจริตในบริษัทสตาร์ค สร้างความเสียหายและผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั้งรายเล็กและรายใหญ่


ขณะที่นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนด้วยว่า นายชนินทร์ไม่ได้อยากหลบหนี แต่นายชนินทร์เคยบอกกับครอบครัวว่าถูกข่มขู่ จนอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ จึงหลบหนีไป


นายเรืองศักด์ ยังระบุว่านายชนินทร์ ให้ได้ตนไปยื่นคำร้องขอความยุติธรรมต่อดีเอสไอและพนักงานอัยการ เพื่อให้สอบเส้นทางการเงินและรายละเอียดอื่นๆให้ครบถ้วน โดยนายเรืองศักดิ์ระบุว่า มีผู้เกี่ยวข้องบางคน ที่มีพฤติกรรมเหมือนกันทุกอย่าง แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี


คดีนี้เดิมที กลต.ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 11 ราย ประกอบด้วย

1. บริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น มหาชน 2. นายชนินทร์ เย็นสุดใจ

3. นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 4. นายชินวัฒน์ อัศวโภคี

5. นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ 6. นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

7. บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด

8. บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

9. บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด

10. บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

11. นางสาวยสบวร อำมฤต.


แต่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการคดีพิเศษ ส่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 3 ครั้ง มีผู้ต้องหา 11 คน โดยไม่มีชื่อนายชินวัตน์ อัศวโภคี ตามที่ กลต.ร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่มีชื่อนางสาวนาตยา ปราบเพชร เลขานุการ นายศรัทธา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทำให้จำนวนผู้ถูกดำเนินคดียังมี 11 คนเท่าเดิม แต่ชื่อผ้ถูกดำเนินคดีเปลี่ยนจากนายชินวัตร เป็นนางสาวนาตยา ปราบเพชร


1. บริษัทสตาร์ค คอร์ปอเรชั่น มหาชน

2. นายชนินทร์ เย็นสุดใจ

3. นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ

4. นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ

5. นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

6 บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด

7. บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

8. บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด

9. บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

10 นางสาวยสบวร อำมฤต.

11.นางสาวนาตยา ปราบเพชร


และเดิมทีคดีนี้แยกเป็น 3 คดี คือคดีเลขที่ 90/256/ เลขที่ 433/2567 และคดี อ.411/2567 ซึ่งนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นผู้ต้องหาคนเดียวของคดีหมายเลขนี้ แต่ ภายหลังศาลอนุญาตให้รวมเป็นคดีเดียวกันทั้งหมด รวมถึงคดีนี้นายชนิทร์ จะถูกส่งฟ้องพรุ่งนี้ก็จะถูกรวมเป็นคดีเดียวกันด้วย


พรุ่งนี้ผู้เสียหายในนามกลุ่มสตาร์คตัวจริง จะไปสังเกตุการณ์การส่งฟ้องนายชนินทร์ เพื่อดูว่าจะถูกส่งฟ้องในข้อหาใดบ้าง และในฐานะที่ตัวแทนผู้เสียหาย ได้รับอนุญาจากศาลให้เข้าเป็นโจทกร์ร่วมในคดีนี ก็จะขอคัดค้านการประตัวของนายชนินทร์ด้วย