สังคม

ทำแผนโจรฉกทรัพย์ในฟิตเนส พบเป็นอดีตวิศวกร อ้างโควิดทำถูกเลิกจ้าง เล็งเหยื่อแต่งตัวดูแพง

โดย nattachat_c

20 ม.ค. 2566

25 views

จากกรณีนายสาธิต วัฒโน เสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาฯเข้าเล่นฟิตเนสบนชั้น 15 ห้างดังย่านงามวงศ์วาน แล้วทรัพย์สินมีค่าที่เก็บเอาไว้ภายในล็อกเกอร์ได้สูญหายไปจากที่เก็บของในสถานที่ดังกล่าว โดยที่ไม่พบร่องรอยของการงัดแงะแต่อย่างใด ต่อมาทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมา


หลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก. สภ.เมืองนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกับสืบสวน ภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาหลักฐานรายละเอียดในที่เกิดเหตุสถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสดังกล่าว


ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุรับแจ้งความจากผู้เสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ จนพบนายณรงค์พล ผู้ต้องหาเดินทางมาใช้บริการในฟิตเนสแล้วพบความผิดปกติ เนื่องจากกระเป๋าสะพายข้างที่นายณรงค์พลผู้ต้องหาสะพายเข้ามามีลักษณะเบาไม่มีน้ำหนัก แต่ขากลับออกไปกระเป๋าสะพายของนายณรงค์พลกลับมีน้ำหนักเหมือนใส่สิ่งของที่หนักกว่าตอนเข้ามา


ตำรวจขอหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการตรวจค้นภายในห้องพักจนพบของกลางของผู้เสียหาย ซึ่งทางทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนั่งดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยในวันเกิดเหตุที่เดินทางมาใช้บริการกว่า 300 คน


ความคืบหน้าวานนี้ (วันที่ 19 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.จตุรนต์ ผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรีพร้อมด้วยชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาออกมาจากห้องควบคุม ก่อนพาขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างที่เกิดเหตุ


โดยนายณรงค์พล พงโสธร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเคยเป็นอดีตวิศวกรของบริษัทแห่งหนึ่งมาก่อน จนกระทั่งช่วงสถานการณ์ที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทางบริษัทเลิกจ้าง ทำให้ตกงานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไปสมัครงานต่อที่ไหนก็ไม่มีบริษัทไหนรับ เนื่องจากเห็นว่าตนมีอายุมากแล้วจึงทำให้ตนไม่มีรายได้ใดๆ ต้องอาศัยหยิบยืมจากทางครอบครัวมาใช้จ่าย ด้วยความที่มีเวลาว่างจึงได้ไปสมัครออกกำลังกายที่ฟิตเนสไว้เป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท จากนั้นก็ไปออกกำลังที่ฟิตเนสเป็นประจำทุกวัน


นายณรงค์พลรับสารภาพอีกว่า ต่อมาพบว่านายสาธิตมักจะเดินทางมาออกกำลังกายพร้อมกับเครื่องประดับประจำตัวที่มีราคาแพงเป็นประจำ จึงได้คิดหาวิธีการที่จะขโมยทรัพย์สินมีค่าของนายสาธิต ด้วยการแอบนำเอากุญแจล็อกเกอร์ ที่ตนสังเกตเห็นว่านายสาธิตมักชอบนำไปเก็บในตู้ล็อกเกอร์ฝั่งหมายเลข 15-21 เป็นประจำ จึงได้แอบนำกุญแจตู้ล็อกเกอร์หมายเลข 17 กับ 18 ออกไปปั๊มที่ย่านสะพานควาย ก่อนจะนำมาเสียบคืนไว้ที่เดิม จากนั้นก็ใช้จังหวะเฝ้ารอในแต่ละวันว่านายสาธิตจะเดินทางมาออกกำลังกาย และใช้ตู้ล็อกเกอร์ที่ตนนำไปทำกุญแจสำรองเอาไว้หรือไม่


นายณรงค์พลรับสารภาพว่า จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ ได้ไปออกกำลังกายเพื่อดักรอนายสาธิต จนพบว่านายสาธิตเดินทางมาที่ฟิตเนสพร้อมกับนำเสื้อผ้าเครื่องประดับมีค่า ใส่เก็บไว้ในตู้ล็อกเกอร์หมายเลข 17 ที่ตนแอบทำกุญแจสำรองไว้พอดี จึงได้ไขเปิดตู้ล็อกเกอร์ลักเอาทรัพย์สินของนายสาธิตไปทั้งหมด โดยนำทรัพย์สินที่ขโมยมาใส่กระเป๋าสะพายข้างที่เตรียมมาออกไปซุกซ่อนที่ห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากฟิตเนส จากนั้นจึงเดินทางกลับไปที่ฟิตเนสใหม่ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่ต้องสงสัย


หลังจากได้ทรัพย์มีค่าดังกล่าวมาแล้ว ได้นำเอาเลสข้อมือกับแหวนเพชรไปจำนำ ได้เงินมาจำนวน 140,000 บาท จากนั้นจึงได้นำเอาเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งไปซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท มาเก็บไว้พร้อมกับซื้อเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมมาใช้ เหลือเงินในบัญชีอยู่ประมาณ 50,000 บาท หลังเกิดเหตุแล้วตนก็ยังคงเดินทางไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสตามปกติ เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ พร้อมกับสอบถามกับเจ้าหน้าที่ประจำฟิตเนสถึงความคืบหน้าที่คนร้ายขโมยทรัพย์สินด้วย

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/COWVjqX1jpA

คุณอาจสนใจ

Related News