สังคม

แจ้งเพิ่ม 3 ข้อหา 'เสี่ยเบนท์ลีย์' หลังพบสารเสพติดในเลือด

โดย panwilai_c

15 ม.ค. 2566

44 views

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยัน แจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถยนต์เบนท์ลีย์ ที่ขับชนคันอื่นบนทางด่วน เพิ่มอีก 3 ข้อหา หลังผลตรวจตัวอย่างเลือดพบสารเสพติด ส่วนกรณีรถยนต์เบนท์ลีย์ คันที่ชนได้ตรวจสอบการจดทะเบียนแล้วว่าถูกต้อง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มว่ามีส่วนหนึ่งส่วนใด หรือขั้นตอนใดที่เป็นการปลอมแปลงขึ้นหรือไม่



พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่า ผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา มีสารเสพติด และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจเลือดอย่างละเอียดไว้ในสำนวนคดีแล้ว จึงอยู่ระหว่างเรียกตัว นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหาคือ



ข้อหาที่ 1 เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 คือเคตามีน โดยผิดกฎหมาย ข้อหาที่ 2 เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และข้อหาที่ 3 ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน



ก่อนหน้านี้ตำรวจได้แจ้งไปแล้ว 2 ข้อหา คือข้อหาขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย และอีกข้อหาที่แจ้งไปแล้ว คือ ขับรถขณะเมาสุรา หากรวมข้อหาที่แจ้งไปแล้ว และข้อหาที่อยู่ระหว่างเรียกตัวมาเพื่อแจ้งข้อหา จะเป็นทั้งหมด 5 ข้อหา



สำหรับข้อหา เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คือคีตามีน โดยผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกอำนาจการสอบสวน ของงานควบคุมการจราจรทางด่วน 1 นั้น พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่มีพันตำรวจเอกสุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผู้บังคับการจราจร เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และพนักงานสอบสวนของตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย



สำหรับประเด็นความเร็วของรถเบนท์ลี่นั้น ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ และหากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม



เช่นเดียวกับข้อสงสัยที่มาของรถเบนท์ลี่ย์คันนี้ ที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ.เคยจับดำเนินคดีฐานทำเอกสารอินวอย ปลอม แจ้งราคารถต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อหลบเลี่ยงภาษี และต่อมาพนักงานอัยการขอให้ พนักงานสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มอีก แต่พนักงานสอบสวนหาหลักฐานใหม่ไม่ทัน จึงไม่ได้ส่งฟ้องนั้น โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว รถคันนี้จดทะเบียนถูกต้อง แต่กองพิสูจน์หลักฐานก็อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่า มีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่

คุณอาจสนใจ