สังคม

ไม่รอด! แจ้งข้อหา 'เมาแล้วขับ' เสี่ยเบนท์ลีย์ พบรถมีประวัติถูกอายัด ปมเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู

โดย chutikan_o

12 ม.ค. 2566

411 views

ไม่รอด! ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับกับเสี่ยเบนท์ลีย์แล้ว เพราะขัดขืนไม่เป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอร์ ขณะที่รถเบนท์ลีย์ที่พบ ปรากฎว่าเคยมีประวัติถูกอายัดเพราะสำแดงเอกสารนำเข้าเป็นเท็จ


ความคืบหน้ากรณีรถเบนท์ลีย์พุ่งชนรถปาเจโร่ ทำให้ไปชนกับรถดับเพลิง บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี นาย สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เป็นคนขับ ซึ่งตามกฎหมายแล้วต้องให้เป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์หลังเกิดเหตุ แต่เจ้าตัวขอไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจแทน


ผ่านไป 3 วัน ผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดออกมาแล้วที่ 10.73 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ตำรวจเรียกตัวนาย สุทัศน์ มารับทราบ 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ)พร้อมส่งตัวฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ทันที เมื่อประมาณบ่าย 3 โมงวานนี้ (11ม.ค.) ก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นเงินสด 1 แสนบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว


ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปเสียงเรื่องการตรวจปริมาณแอลกอฮอร์ ที่ตำรวจนายหนึ่งตอบกลับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยที่ถามว่าต้องเป่าไหม? ว่า ถ้าจะเป่าต้องไปโรงพยาบาลสิ ที่นี่ไม่มี


นอกจากนี้ยังมีแชทไลน์ที่ตำรวจคนนี้คุยกับใครบางคน พอวางสายก็เรียกเจ้าของเบนท์ลีย์เข้าไปนั่งในห้อง และบอกว่า "นายบอกให้แยก"


ขณะที่มีรายงานว่ารถเบนท์ลีย์ ที่ขับไปเกิดอุบัติเหตุ มีประวัติเคยถูกยึดเป็นรถของกลาง เพื่อตรวจสอบเรื่องการนำเข้าว่าได้เลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้าโดยสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จ เมื่อปี 2555 หลังตรวจสอบพบว่าเจ้าของโชว์รูมแห่งหนึ่ง ร่วมกับชบวนการนำเข้ารถคันนี้จัดทำเอกสารให้ราคานำเข้าต่ำกว่าราคาขายจริง เพื่อจะได้เสียภาษีถูกลง ทำให้รัฐบาลเสียหายจากการเรียกเก็บภาษีรถหลายล้านบาท


ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง แต่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยอ้างว่าเอกสารที่ได้มาจากประเทศอังกฤษรับฟังไม่ได้ เพราะขาดการรับรองลายมือชื่อ (Notary public) เท่ากับว่ารถคันนี้ไม่ถือว่าผิด จึงนำมาสู่การขายในตลาดได้


นอกจากนี้มีรายงานว่า รถยนต์คันนี้อาจจะสวมทะเบียน ทีมข่าวจึงตรวจสอบไปยัง พันตำรวจโท พิเชษฐ์ ก้อนแพง รองผู้กำกับการ (สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจร 1 สน.ทางด่วน 1 ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีนี้ เปิดเผยว่า ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบเลขเครื่อง เลขตัวถัง และรายละเอียดทั้งหมดแล้ว และประสานข้อมูลไปยังกรมขนส่งทางบก ว่ามีการสวมทะเบียนหรือไม่ แต่หากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวมีประกันหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ


ส่วนที่นายสุทัศน์ ขี้แจ้งว่า ไม่ได้ขับรถเร็ว และเกี่ยวท้ายรถของปาเจโร่นิดเดียว แต่ที่เสียหายเยอะ เพราะรถดับเพลิงมาเร็วทำให้ไปชนปาเจโร่นั้น พันตำรวจโท พิเชษฐ์ ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเรื่องความเร็วแล้ว และยืนยันว่ามั่นใจในหลักฐานที่มีค่อนข้างชัดเจน ซึ่งนาย สุทัศน์ รับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน ทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะไปให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา


ส่วนการชดใช้ค่าเสียหาย ทางตำรวจบอกว่า ต้องรอให้ทางมูลนิธิสรุปความเสียหายและเรียกกลับมา ตอนนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดตัวเลขใด ๆ


นอกจากนี้พันตำรวจโท พิเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า ได้ไปสอบปากคำหมอ ตามที่ผู้ต้องหาอ้างว่า มีอาการเจ็บหน้าอกแล้ว ประเด็นเรื่องของการถ่วงเวลาเพื่อให้ปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดลดลง เพื่อนำไปประกอบสำนวนส่งให้ศาล

https://youtu.be/bebaATPWqOQ

คุณอาจสนใจ

Related News