เปิดนาที ‘ผู้บริหารสาว’ เมาถีบตำรวจ ค้นประวัติเคยเมาแล้วขับ-โทษรอลงอาญา ก่อนโดนจับด่านเดิม

เปิดนาที “ผู้บริหารสาว” เมาแล้วขับ ขัดขืนไม่ยอมไปโรงพัก พยายามติดสินบน ถีบเสยคางตำรวจ ค้นประวัติเคยเมาแล้วขับโทษรอลงอาญา ก่อเหตุซ้ำโดนจับด่านเดิม

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 เมษายน ตอนเที่ยงคืนครึ่ง ที่มีซีอีโอหญิง อายุ 51 ปี ของบริษัทดังแห่งหนึ่ง ขับรถเบนซ์ เข้าไปที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ เลียบด่วนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสุวรรณภูมิ โดยเมื่อตำรวจ กองกำกับการ 5 บก.จร. ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ ซีอีโอรายนี้ พบว่าสูงถึง 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งหลังจากที่ตำรวจ ได้ทำบันทึกและจะนำตัวไปส่ง สน.ประเวศ โดยได้มีการนำตัวไปไว้ในรถของตำรวจ แต่ปรากฏว่าซีอีโอรายนี้ ได้มีการด่าทอตำรวจ และยังขัดขืน ทำให้ตำรวจต้องจับตัวซีโอโอสาวรายนี้ไว้ แต่ปรากฏว่า ซีอีโอรายนี้ ซึ่งอยู่ในลักษะกึ่งนั่งกึ่งนอนที่เบาะหลังรถตำรวจ ได้ใช้เท้าถีบไปที่หน้าของ พันตำรวจโทดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการ 5 บก.จร.

จนสุดท้ายตำรวจสามารถควบคุมตัวซีอีโอรายนี้ ไปที่ สน.ประเวศได้สำเร็จ โดยพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้แจ้งข้อหา เมาสุราขณะขับรถ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งซีอีโอรายนี้ ได้ยอมรับในข้อหาเมาแล้วขับ แต่ปฏิเสธข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และขอต่อสู้คดี

พันตำรวจเอกจิรกฤต จารุนภัฐร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าวันเกิดเหตุ ตำรวจ บก.จร. ได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่จุดดังกล่าวตามปกติ จากนั้นซีอีโอรายนี้ ได้ขับรถเบนซ์เข้ามาที่ด่าน ตำรวจจึงได้ขอตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งซีอีโอรายนี้ก็ให้ความร่วมมือ โดยจากการเป่าเบื้องต้น มีสัญญาณเตือนว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด

ตำรวจจึงเชิญตัวมาเป่าอย่างละเอียด พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตำรวจได้แจ้งว่าจะต้องดำเนินคดี และจะต้องนำตัวส่ง สน.ประเวศ

แต่ระหว่างทาง ซีอีโอรายนี้ เริ่มแสดงความไม่พอใจ ด่าทอตำรวจ และมีการบอกว่าช่วยได้ไหม จะเอาเงินเท่าไร แต่ตำรวจไม่สนใจ ทำให้ซีอีโอรายนี้ ไม่ยอมไปที่ สน.ประเวศ ตำรวจจึงเข้าไปเจรจา และขอใส่กุญแจมือ โดยใส่ได้เพียงข้างเดียว ซีอีโอรายนี้จึงยอมเดินตามไปที่รถตำรวจ

จนเมื่อเข้าไปถึงในรถ ซีอีโอรายนี้ ก็ฮึดสู้ขัดขืนตำรวจอีก จนทำให้พันตำรวจโทดาราธร ต้องเข้าไปควบคุมตัว แต่ก็ถูกซีอีโอรายนี้ถีบเข้าที่ใบหน้าด้านขวา โดยหลังจากถีบแล้ว ซีอีโอรายนี้ ยังพูดว่า ฉันถีบหน้าเธอไปหนึ่งทีแล้วนะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ซีอีโอรายนี้รู้ตัวและยอมรับว่าถีบตำรวจ

ส่วนประเด็นที่ซีอีโอ รายนี้ สู้คดีในข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงาน ก็แล้วแต่ทางคู่กรณี แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วน ทั้งภาพจากกล้องโคโป ที่ติดไว้ที่หมวกตำรวจ และ มีการถ่ายคลิปไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำภาพทั้งหมด มาตรวจสอบเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า เมื่อ 17 สิงหาคม 2565 ซีอีโอรายนี้ เคยถูกตำรวจของ บก.จร. ตรวจจับเมาแล้วขับ ที่ด่านแห่งนี้ด้วย และศาลได้สั่งให้จำคุกด้วย โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี จึงเป็นไปได้ว่า ซีอีโอ รายนี้กลัวที่จะถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ แล้วต้องได้รับโทษที่รอลงอาญาไว้ จึงทำให้ต่อสู้ขัดขวางเพราะไม่อยากถูกดำเนินคดี

ล่าสุดทีมข่าวอาชญากรรม ได้หลักฐานสำคัญ เป็นกล้องที่ติดอยู่ที่หมวกตำรวจ สามารถบันทึกเหตุการณ์ ที่เริ่มตั้งแต่ซีอีโอรายนี้ ได้มีการพยายามพูดเจรจา ต่อรองกับตำรวจเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับ จนไปถึงช่วงเวลาที่ซีอีโอรายนี้ ถูกใส่กุญแจมือ

พันตำรวจเอกสุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ สน.ประเวศ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ซีอีโอรายนี้ให้การปฏิเสธ ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และขอให้การกับตำรวจ ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนพันตำรวจโทดาราธร ที่ถูกซีอีโอถีบหน้า พนักงานสอบสวนจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มอีกครั้ง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dzkJkIJzqXU