วิบากกรรมในคืนเคานต์ดาวน์ เพจดังแชร์ประสบการณ์ คน กทม.หารถสาธารณะกลับบ้านไม่ได้

เพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก แชร์วิบากกรรมในคืนเคานต์ดาวน์ คน กทม.หารถสาธารณะกลับบ้านไม่ได้ จนหลายคนร้องไห้

เพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก เพจภาพยนตร์และไลฟ์สไตล์ชื่อดัง โพสต์เล่าเรื่องราววิบากกรรมในคืนเคานต์ดาวน์ที่ทรมานกับการหารถกลับบ้านไม่ได้ โดยโพสต์ภาพที่เขียนข้อความว่า ณ คืนเคานต์ดาวน์ หลายคนร้องไห้ เมื่อหารถสาธารณะกลับบ้านไม่ได้ แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร และต้องการคิดราคาเหมาเป็นพัน!

โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า วิบากกรรมในคืนเคานต์ดาวน์ เมื่อไม่มีรถกลับบ้าน คนกทม.หลายๆ คนบอกว่า เขาเคยร้องไห้ เพราะหารถกลับบ้านไม่ได้

ขอสารภาพว่าไม่เคยนั่งรถสาธารณะมานานมากๆ และแทบจะไม่เคยโบกแท็กซี่ในช่วงเร่งด่วนมานานแล้ว เลยไม่รู้ว่าคำทรมานจากการหารถกลับบ้านไม่ได้มันทรมานขนาดไหน และไม่เคยรู้มาก่อนว่าแท็กซี่ใน กทม. มันจะโหดร้ายได้ขนาดนี้!!

ในคืนเคานต์ดาวน์ เราตัดสินใจเอารถจอดทิ้งไว้และนั่งแท็กซี่ไปไอคอนสยามแทน เพราะคิดว่ามันไม่มีที่จอดรถ ขาไปแท็กซี่น่ารักมาก ไม่มีปัญหาอะไรมากครับ และขากลับเราวางแผนว่าอาจจะออกจากไอคอนสักราวตีสองให้ถนนมันโล่งก่อน แต่ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเอามากๆ จะขอข้ามการดูพลุ 5 นาที ของไอคอนสยามไปนะครับ ดูพลุจบเราก็ยังนั่งเล่นไปเรื่อยๆ หวังให้คนไม่เยอะก่อนค่อยกลับบ้าน เดินออกไปที่ถนน ภาพที่เห็นคือผู้คนมากมายยังนั่งตามฟุตบาท กดมือถือ กดแกร็บหารถกันมากมาย มองด้วยตาคือน่าจะหลายร้อยคน ตีสองครึ่งผู้คนยังตกค้างไม่ได้กลับบ้าน ผมกดแกร็บเรียกรถเพื่อกลับไปที่รถตัวเอง ก็ตามสภาพครับไม่มีแกร็บกดรับงานเลย พยายามอย่างสุดความสามารถ กดยังไงก็ไม่ได้ แท็กซี่ขับผ่านไปคันแล้วคันเล่า หลายๆ คันจอดรับคนแล้วก็ขับต่อมาจนถึงคิวผม ผมโบกอยู่เป็นสิบๆ คัน เกือบทุกคันจะเรียกเหมาหมด ไม่ก็อ้างว่าจะกลับบ้านแล้ว

คนแถวนั้นเล่าว่า เรียกจากไอคอนไปเซ็นทรัลเวิลด์ แท็กซี่ขอไม่กดมิเตอร์ ขอเรียกเหมาในราคา 2,000 บาท รถไฟฟ้าหยุดวิ่งไปนานแล้ว รถแกร็บนี่กดไปค่าโดยสาร 400-800 ใช้เวลาวิ่ง 24 นาที แพงมากกกกก

ความพยายามในการหาแท็กซี่สิ้นหวังแทบจะเหลือ 0 น้องๆ แถวนั้นเล่าว่า พี่เชื่อไหมว่า คน กทม. หลายๆ คนเคยประสบปัญหากลับบ้านไม่ได้ เพราะเรียกรถไม่ได้ หารถสาธารณะไม่ได้ จนต้องเดินร้องไห้กลับบ้านด้วยระยะทางที่ไกลมาก เขาเชื่อว่าคน กทม. หลายๆ คนจะต้องเคยประสบภาวะแบบนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

ปัญหาขนส่งสาธารณะใน กทม. ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน หรือผู้นำคนไหนเข้ามาก็ไม่เคยแก้ปัญหาได้ แท็กซี่เวลาตัวเองทำมาหากินไม่ได้ ก็ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจ แต่พอกลับมาในสภาวะที่ผู้คนต้องการใช้บริการ แท็กซี่ก็ยังเลือกรับผู้โดยสาร ยังขอไม่กดมิเตอร์ ขอให้บริการแบบเหมาในราคาแพงมาก มันก็ยังเป็นแบบนี้ เป็นมาเป็นสิบๆ ปี แก้ปัญหายังไงก็แก้ไขไม่ได้ แน่นอนว่า คืนเคานต์ดาวน์มันอาจจะเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้ามันแก้ปัญหาได้จริงๆ มันก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ

ปัญหาเหล่านี้ผู้นำประเทศ ผู้มีอำนาจคงแทบจะไม่เคยสัมผัส เพราะทุกคนมีพริวิลเลจ (มีอภิสิทธิ์) หมด ได้มีรถนำ ได้ปิดถนนน ไปไหนมาไหนสะดวก นานๆ จะหาเสียง ก็ไปถ่ายภาพตอนขึ้นรถไฟฟ้าบ้าง ตอนขึ้นรถเมล์บ้าง หรือไปแอ๊คท่าถ่ายกับแท็กซี่นิสัยดีๆ บ้าง แต่ไม่เคยได้มาสัมผัสปัญหาจริงว่า มันคือนรกแท้ๆ หวังนะครับว่า ผู้มีอำนาจจะเข้าถึงหัวใจประชาชนได้จริงๆ เสียที...

นอกจากนี้ เพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ยังแสดงความคิดเห็นเพิ่มในโพสต์ตัวเองว่า เวลาที่คนแห่กันไปซื้อรถส่วนตัวก็อย่าไปด่าเขาเลยว่าปล่อยมลพิษ หรือคนซื้อรถมือสองราคาถูกๆ ก็อย่าไปว่าเลยว่ารถมือสองทำให้โลกร้อน สภาพขนส่งสาธารณะมันเป็นแบบนี้ ไม่มีใครอยากทนครับ พอมีตังค์ก็กัดฟันซื้อรถกันหมดครับ ไม่มีใครอยากลำบากและรู้สึกต้องกราบกรานคนขับแท็กซี่กันแบบนี้

โพสต์ดังกล่าวมีผู้กดไลก์ถึง 1.5 หมื่นคน มียอดแชร์ 1.8 พันครั้ง และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากถึง 1.3 พันรายการ (เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 66 เวลา 09.30 น.) อาทิ แทบไม่ต้องหน้าเทศกาลหรอก แค่ทุกๆ วันกลางวันกลางคืน ก็ปวดหัวกับการหาแท็กซี่ตลอด จริงๆ ผู้บริหารควรจะลงมาดูเรื่องนี้จริงจังได้แล้ว มันทำให้ กทม. ไม่น่าอยู่เลยนะ, พอประชาชนหาวิธีอื่นได้ ก็ออกมางอแง ออกลูกเป็นฝ่ายถูกกระทำ โคตรตลก อ้างกฏหมายสารพัด ทั้งๆ ที่ปกติก็เอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารตลอด ไม่ทำตามระเบียบกัน, ควรปรับปรุงระบบบริการขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพสักทีเถอะ ทนมานานมากแล้วนะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลเป็นช่วงโกยเงินเข้ากระเป๋าและดึงดูดนักท่องเที่ยวแท้ๆ แต่ดันรู้สึกแย่ตอนขากลับทุกที นี่ถึงขนาดขอติดรถตำรวจกลับด้วยก็ทำมาแล้ว เป็นต้น