อาชญากรรม

“อู๋ ธรรพ์ณธร” แจ้งจับร้านค้าออนไลน์หลอกขายหมวก พบผู้เสียหายเพียบ

โดย paranee_s

24 ธ.ค. 2565

195 views

เมื่อเวลา 11.20 น. นายธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หรือ อู๋ ธรรพ์ณธร นักร้องชื่อดัง เจ้าของผลงานเพลงอันโด่งดัง "หัวใจกระดาษ" และนางสาวกรวิวรรณ์ หรือ ครูเก๋า ภรรยา พร้อมนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ ได้เดินทางมายังศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของ ปคบ. เนื่องจากกรณีถูกหลอกลวงซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก


อู๋ ธรรพ์ณธร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้โอนเงินสั่งซื้อหมวกปานามามือสองจากเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง จำนวน 2 ใบในราคา 1,500 บาท ต่อมา 3 วันผ่านไป ตนก็ยังไม่ได้รับหมวกดังกล่าว จึงสอบถามไปยังแอดมินเพจดังกล่าว ปรากฏว่าตนถูกบล็อกช่องทางการติดต่อสื่อสารจากเพจนี้


พอตนเข้าไปสืบประวัติของเพจนี้ ก็พบว่าเป็นมีลูกค้ารายอื่น ๆ ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันกับตนเป็นจำนวนมาก ถึงแม้มูลค่าความเสียหายของแต่ละคนมีไม่มาก แต่เมื่อนำมารวมกัน พบว่ามีมูลค่าสูงพอสมควร


ดังนั้น เมื่อตนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว ตนจึงมาแจ้งความเพื่อพิทักษ์สิทธิของตนเอง และอยากเรียกร้องให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อออกมาร่วมกันแจ้งความและทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะมันไม่ควรเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ เราอยู่ในสังคมเดียวกันก็ไม่ควรเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ต้องมีความซื่อสัตย์ระหว่างกัน


อีกทั้งในยุคข้าวยากหมากแพง ไม่ว่าเงินมูลค่า 1,500 บาท หรือ 100 บาท ก็มีความสำคัญต่อเจ้าของเงิน ส่วนเรื่องของคดีตนคงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ในใจลึก ๆ คือไม่ได้อยากจะให้ถึงที่สุด ได้สินค้ากลับมาก็ได้ แต่ตนก็อยากให้สังคมตื่นตัวและร่วมกันกำจัดมิจฉาชีพที่เอาเปรียบประชาชนออกไปจากสังคม


นอกจากนี้ อู๋ ธรรพ์ณธร ยังกล่าวติดตลกทิ้งท้ายอีกว่า ที่ร้ายแรงที่สุดเนื่องจากเสียฟอร์มที่ถูก ครูเก๋า-กรวิวรรณ์ ภรรยาของตนบ่นตลอดที่เสียเงินโดยไม่ได้สินค้า ขณะที่ครูเก๋า กรวิวรรณ์ ภรรยาของอู๋ ธรรพ์ณธร หัวเราะทันทีที่สามีแซวตนต่อหน้านักข่าว


ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความที่ปรึกษาคดีแก่ อู๋ ธรรพ์ณธร กล่าวว่า จากพฤติการณ์ของแอดมินเพจนี้ มีการโฆษณาชักชวนซื้อขายสินค้าในเพจเฟซบุ๊ก มีการรับโอนเงินจากลูกค้าโดยไม่ส่งสินค้าให้ ประกอบกับมีการบล็อกช่องทางการสื่อสารปิดเพจหนี ซึ่งพิเคราะห์แล้วพบว่ามีเจตนาชัดเจนที่ต้องการหลอกลวงประชาชนทั่วไป จึงเข้าองค์ประกอบความผิดคดีฉ้อโกงประชาชนทันที


แม้ขณะนี้มีผู้เสียหายแค่คนเดียวมาแจ้งความก็ตาม อีกทั้งอยากให้ดำเนินคดีฟอกเงินด้วยเนื่องจากเป็นข้อหาที่พ่วงกับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ส่วนเรื่องการตามตัวคนร้ายยอมรับว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากการสืบหาตัวแอดมินที่มีรายละเอียดสูง และบัญชีที่โอนเงินคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นบัญชีม้า แต่คดีนี้ถึงยังไงก็ไม่สามารถยอมความได้ เลยมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจ ปคบ.ดำเนินคดีต่อไป


พร้อมฝากทิ้งท้ายถึงบรรดาผู้ประกอบการขายของทางออนไลน์ว่าขอให้มีความซื่อสัตย์สุจริต อย่าฉวยโอกาสในการเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนเช่นนี้ อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ถึงแม้จะสามารถจับกุมมิจฉาชีพได้ 1 รายแต่อย่างน้อยก็สามารถทำให้สังคมสงบสุขได้

คุณอาจสนใจ