สังคม

ผบช.น.ส่งหลักฐานมัด 'ตู้ห่าว' เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ แจงทำคดีไม่มีหมกเม็ด

โดย panwilai_c

15 ธ.ค. 2565

120 views

หลังถูกคุณ ชูวิทย์ โจมตีมาอย่างหนักตลอดทั้งสัปดาห์ เรื่องการทำสำนวนคดีผับจินหลิง ว่าเป็นการช่วยฟอกขาวให้กลุ่มทุนจีนหรือไม่ วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกางแผนการทำงานโชว์สื่อ พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ถูกสงสัย



บ่าย 3 โมงครึ่งที่ผ่านมา (15 ธ.ค. 65) พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กางชาร์ตอธิบายถึงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่เข้าตรวจค้นผับจินหลิง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พบว่าที่นี่เปิดให้เล่นการพนัน / เสพยาเสพติด / เป็นสถานบันเทิง ควบคุมตัวบุคคลได้หลายสัญชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และพบยาเสพติดหลายประเภท ตรวจหาสารเสพติดด้วยชุดตรวจเบื้องต้น พบสารเสพติด 104 คน พอส่งตรวจที่โรงพยาบาลยืนยันผล 77 คน จึงดำเนินคดีฐานเสพยาเสพติด



พร้อมยอมรับว่า มีตำรวจ 3 นาย นำผู้ต้องหา 1 คน แยกออกไปฟ้องเอง นั่นคือหลานชายตู้ห่าว เพราะถูกจ้างวานจากบุคคลภายนอกซึ่งดำเนินคดีอาญา และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. แล้ว ส่วนคนจ้างวานอยู่ระหว่างติดตามตัว



เท่ากับว่าตอนนี้เหลือผู้ต้องหาทั้งหมด 76 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และยืนยันว่า ได้มีการสอบปากคำทั้งหมดไว้เป็นพยานในคดีแล้ว โดยมีการสอบถามรายละเอียดถึงที่มาที่ไปในการเข้ามาที่สถานที่ดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบร่องรอยการสื่อสาร เส้นทางการเงิน การซื้อยาเสพติดทั้งหมด ซึ่งผู้เสพก็ให้การที่เป็นประโยชน์ โดยบอกว่า มีรถไปรับและพามาเสพ



ส่วนรถหรูที่พบ 35 คัน ได้ตรวจค้นรถตั้งแต่วันจับกุมแล้ว มีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอในการตรวจค้นทั้งหมด แต่หลักฐานเหล่านี้ควรถูกนำมาใช้ในชั้นศาลมากกว่านำออกมาเปิดเผย ส่วนรถยนต์ที่ถูกปล่อยไป 4 คัน ตอนนี้ตั้งคณะกรรมการสอบตำรวจที่อนุญาตแล้ว



สำหรับความคืบหน้าในคดีตำรวจได้ดำเนินคดีกับชาวจีน 2 คน ที่ตรวจพบในห้องเก็บยา ในข้อหามีเคตามีนไว้ในครอบครอง และได้สืบสวนเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสาร พบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ อีก 10 ราย ทั้งที่อยู่และไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนสามารถออกหมายจับได้ ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 7 ราย และได้เสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าทั้ง 10 รายนี้ เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ จนนำไปสู่การตั้งคณะทำงานฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว



ส่วนที่นาย ชูวิทย์ กล่าวหาว่าจับยามมาเป็นแพะ พลตำรวจโท ธิติ ยืนยันว่า ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ "ยาม" แต่เป็นผู้ดูแลสถานที่ ตอนเข้าไปตรวจค้น บุคคลนี้ก็ได้แสดงตนเป็นผู้รับหมาย และบอกว่าเป็นคนดูแล เมื่อตรวจพบยาเสพติดก็ต้องแจ้งข้อหาตามหลักฐานที่ปรากฏ พอเอาตัวมาสอบสวนถึงรู้ว่าไม่ได้ให้ข้อมูลตามจริงจึงเกลี้ยกล่อมจนยอมให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งมีการอัดวิดีโอตอนสอบปากคำไว้ด้วย



สาเหตุที่ไม่ได้ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน เพราะตำรวจส่งให้ ป.ป.ง. ตรวจสอบ ซึ่งการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ควรให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ครอบคลุมมากกว่า



และการอายัดทรัพย์สินต้องเลือกยึดอายัดตามกฎหมายยาเสพติดก่อน เพราะทำได้รวดเร็วมากกว่า พร้อมยืนยันว่า ตำรวจมีการตั้งมูลฐานที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินตั้งแต่แรก แต่ทุกอย่างต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนและหนักแน่น



เมื่อนักข่าวถามว่า มีอะไรจะพูดถึงบุคคลที่ออกมาตั้งคำถามถึงการทำงานหรือไม่ พลตำรวจโท ธิติ บอกว่า ขอตัวทำงานดีกว่า จะทำให้เต็มที่



รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยถึงสาเหตุการรับคดีตู้ห่าวเป็นคดีพิเศษ เพราะผู้บัญชาการตำรวจนครบาลส่งหลักฐานสำนวนคดีมาให้ แล้วระบุเข้าข่ายเป็นคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ไม่เกี่ยวกับที่ นาย ชูวิทย์ มายื่นเรื่องก่อนหน้านี้



นาย โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงสาเหตุที่นางสาว นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด แต่งตั้งคณะทำงานกำกับการสอบสวนและการดำเนินคดีในคดีของนายตู้ห่าว ว่าเนื่องจาก วันที่ 13 ธันวาคม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมีหนังสือมาถึงอัยการสูงสุด รายงานข้อมูลของผู้ต้องหาในคดีนี้ว่าตำรวจสืบสวนพบการกระทำความผิดบางส่วนที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร จึงถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ซึ่งกำหนดให้อัยการสูงสุดมีอำนาจสอบสวนคดีนอกราชอาณาจักร



พร้อมแนบเอกสารเป็น สำเนาบันทึกการตรวจค้นและการจับกุม 57 แผ่น / รายงานการสืบสวนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 141 แผ่น / เอกสารการสืบค้นข้อมูลการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร จำนวน 26 แผ่น / เอกสารคิวอาร์โค้ดรับชำระเงิน จำนวน 1 แผ่น และเอกสารสรุปการแจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 1 แผ่น



โดยการทำงานของอัยการสูงสุด คือ กำกับและติดตามการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนในคดีนี้ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ไม่ได้ลงไปสอบสวนเอง พร้อมย้ำว่า การแต่งตั้งคณะทำงานของอัยการสูงสุดครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ มายื่นเรื่องขอให้อัยการสูงสุดรับคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FTZHTocW0xM

คุณอาจสนใจ

Related News