รุ่นพี่วัย 25 ปีโมโหถูกแฉมีกิ๊ก ดักทำร้ายใช้ค้อนทุบศีรษะรุ่นน้องวัย 17 ปี ซ้ำตามหาเรื่องจนต้องย้ายงานหนี

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ Part5.2 ที่ได้โพสต์ ภาพนิ่ง และ ข้อความขอความช่วยเหลือ ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบ กรณีหญิงอายุ 17 ถูก รุ่นพี่ อายุ 25 ปี ใช้ค้อนหัวเหล็กทุบที่ศีรษะ และกระทืบทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงบ่ายโมงของวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยข้อความที่โพสต์ ระบุประมาณว่า ผู้ก่อเหตุกลัวผู้บาดเจ็บจะนำเรื่องมีกิ๊กมาบอกแฟนตัวจริง อีกทั้งน้องผู้บาดเจ็บก็พยายามตีตัวออกห่างผู้ก่อเหตุ อีกทั้งขณะก่อเหตุทยังพูดอีกว่า “จะเอาให้ตาย”


นักข่าว ติดต่อไปยัง หญิง อายุ 17 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้เปิดร่องรอยบาดแผลที่บริเวณศีรษะ และต้นขาข้างขวา โดยได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ว่าขณะที่เธอกำลังจอดรถจักรยานยนต์หน้าห้องพัก ผู้ก่อเหตุเดินมาจากด้านหลัง ใช้ค้อนตีเข้าที่ศีรษะ หลายครั้ง


จังหวะนั้นเธอรู้สึกมึนศีรษะทันที และเธอได้ยิน ว่า กูจะเอาให้ตาย จากนั้นก็ถูกกระชากไปเตะเข้าที่ท้อง เธอบอกว่า พยายามขัดขืนต่อสู้แล้ว แต่ไม่ไหว สุดท้ายเธอก็นอนจมกองเลือด ซึ่งผู้บาดเจ็บยืนยันว่าผู้ก่อเหตุ คือเพื่อนสนิทที่เป็นรุ่นพี่ เพราะเธอเห็นใบหน้าชัดเจน


เมื่อถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเกิดความระแวงในตัวเธอ เพราะเธอรู้เรื่องราวว่า ผู้ก่อเหตุไปคุยกับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว โดยผู้ก่อเหตุกลัวว่า ผู้บาดเจ็บจะนำเรื่องดังกล่าวไปบอกแฟนและแม่สะใภ้ของผู้ก่อเหตุ


อีกทั้งผู้บาดเจ็บ ก็พยายามตีตัวออกห่างคนที่ก่อเหตุ เพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย และที่ผ่านมาก็พยายามห้ามไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้ ซ้ำก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยพูดว่า “อย่าไปบอกใครนะ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ถ้าคนอื่นรู้ก็ต้องมาจากมึงแน่นอน คงรู้นะว่ากูเป็นคนยังไง” พูดแบบนี้ 2-3 ครั้ง


หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้พยายามนำพวกมาดักรอหน้าที่พัก จนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ต้องหนีมาอยู่ต่างจังหวัด อีกทั้งผู้ก่อเหตุ ยังไปพูดกับคนอื่นๆ อีกว่า ที่ทำลงไปนั้นไม่ได้ตั้งใจทำ ไม่ได้ตั้งใจหยิบค้อนจะไปทำร้าย


ผู้บาดเจ็บ ยังบอกอีกว่า ไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่ตั้งใจ เพราะในเหตุการณ์หยิบค้อนเดินตรงมาตีทันทีหลายครั้ง และหลังก่อเหตุก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไปเที่ยว ไปดื่มกิน และไม่เคยติดต่อมาขอรับผิดชอบอะไรเลย


ด้านนางสาวพรทิพย์ อายุ 43 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ บอกว่ารู้สึกตกใจมาก ที่ลูกสาวโดนทำร้ายร่างกาย ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับลูกสาว และพฤติการณ์ คือ คงหวังจะเอาให้ตาย ซ้ำในที่เกิดเหตุ ไม่มีใครช่วยเหลือ ยังเอาพวกมาดักรอ


หลังก่อเหตุก็ยังใช้ชีวิตปกติ และตั้งแต่ไปแจ้งความยังไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการเรียกสอบปากคำทั้งสองฝ่าย จึงกลัวเรื่องจะเงียบ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะลูกสาวทั้งบาดเจ็บ และต้องออกจากงานเลย เพราะกลัวว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย


นอกจากนี้ ทางอาของผู้บาดเจ็บ ได้แชตข้อความไปหาผู้ก่อเหตุ ไปถามเชิงตำหนิว่าทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ได้พิมตอบกลับมาว่า “หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูสำนึกผิด”


และยังมีแชตจากแฟนตัวจริงของผู้ก่อเหตุ ได้แชตมาขอโทษผู้บาดเจ็บ บอกว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามให้ผู้บาดเจ็บเรียกเงินไป แต่ผู้บาดเจ็บบอกว่าไม่ขอรับเงินแต่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ขณะที่นักข่าวได้ไปยังห้องเช่าจุดที่เกิดเหตุ ก็พบกับ แม่สะใภ้ผู้ก่อเหตุ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ลูกสะใภ้เธอก่อเหตุจริง และได้หยิบค้อนจากหลังตู้เย็นที่อยู่ข้างบ้านและเดินไปทำร้ายผู้บาดเจ็บ เธอเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยห้าม และเมื่อถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ทางแม่สะใภ้ได้เล่าว่า ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ผู้บาดเจ็บ ได้ส่งแชตข้อความมาให้เธอ บอกว่า ลูกสะใภ้ไปกินเหล้ากับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกชายของเธอ และพิมพ์บอกพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกสะใภ้ให้เธอทราบ


ซึ่งตอนนั้นเธอก็สงสัย จึงไปถามลูกสะใภ้ ว่าจริงหรือไม่ ซึ่งลูกสะใภ้ก็ปฏิเสธบอกว่าเป็นแค่เพื่อนแค่คนรู้จักกันเท่านั้น ซึ่งเธอก็เชื่อ และไม่ได้ว่าอะไร จนกระทั่งมาเห็นเหตุการณ์


โดยเธอ ได้ปฏิเสธว่า หลังเกิดเหตุทางลูกสะใภ้ ไม่ได้มีการไประราน หรือ เอาพวกมาดักรอทำร้ายแน่นอน และยอมรับว่า ลูกสะใภ้ผิดจริง อยากจะพูดคุยกับฝั่งคู่กรณีเพื่อไกล่เกลี่ย แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมคุย หลังจากนี้คงต้องไปคุยกับตำรวจ