สังคม
สุดโหด ม.2 ใช้แอลกอฮอล์จุดไฟเผาเด็ก ป.5 เจ็บหนัก ขู่ให้บอกว่าทำตัวเอง แม่พาแจ้งความ ตร.แค่เรียกไกล่เกลี่ย
โดย nattachat_c
25 ก.ย. 2566
54 views
วานนี้ (24 ก.ย. 66) ที่ศูนย์ประสานงาน สายไหมต้องรอด เขตสายไหม ผู้เสียหายสาว วัย 34 ปี พาลูกชายอายุ 11 ขวบ ขี่รถจักรยานยนต์ลุยฝน เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังลูกชายถูกกลุ่มเยาวชนขาโจ๋ในหมู่บ้าน ล็อกตัว แล้วราดแอลกอฮอล์ล้างแผล และจุดไฟเผา ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณลำตัว และต้นขาทั้งสองข้าง และหลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจสถานีตำรวจภูธรคูคต แต่ตำรวจจับให้มีการไกล่เกลี่ย จึงเดินทางร้องขอความช่วยเหลือ ในวันนี้
นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากที่ได้พูดคุยซักถาม และดูบาดแผลของน้องผู้เสียหายรายนี้ พบว่า บาดแผลมีขนาดใหญ่ ซึ่งตัวเด็กคงต้องได้รับความทรมานจากการเจ็บปวดอย่างมาก
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่มีสองเยาวชน อายุประมาณ 14 ปี ซึ่งเป็นรุ่นพี่อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และพักอาศัยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ในย่านคูคต เข้ามาตามที่หน้าบ้าน ให้ไปพบที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่มของคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา
แต่เมื่อเดินเท้าไปถึง ก็มีการล็อกตัว และใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลที่เตรียมมา ราดใส่ต้นขา และมีการจุดไฟ ซึ่งตอนแรก น้องผู้เสียหายได้พยายามเป่าจนไฟดับ เด็กผู้ก่อเหตุทั้งสอง จึงได้พยายามราดแอลกอฮอล์เพิ่มเติม และจุดไฟเผาอีกครั้ง
ซึ่งครั้งที่สอง ทำให้ไฟลุกลามขึ้นบริเวณตามตัว เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากขึ้น ไปโดนบริเวณเสื้อผ้า จนสูงถึงผมด้านข้างทั้งสอง ซึ่งปรากฏร่องรอยการไหม้อย่างชัดเจน
ขณะที่ หลังก่อเหตุ ยังได้บังคับข่มขู่ให้น้องผู้เสียหาย ให้บอกกับที่บ้านว่าเป็นคนทำตัวเอง ไม่มีใครแกล้ง ทำให้น้องผู้เสียหายเกิดความกลัวจนไม่กล้าบอกกับแม่และต้องทนทรมานจากบาดแผลตลอดคืน จนแม่มาสังเกตอาการในช่วงเช้าวันเสาร์ จึงพบว่า ตามตัวและต้นขาทั้งสองข้าง มีบาดแผลจากการถูกไฟไหม้ พุพอง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาล
ซึ่งแพทย์ได้มีการนัดหมายให้เข้าไปดูอาการอีกครั้ง ในช่วงสัปดาห์หน้า และได้มีการเข้าไปแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ แต่ตำรวจกลับเรียกคู่กรณีมาให้เจรจา ไม่มีการดำเนินการทางคดี
ซึ่งการดำเนินการต่อจากนี้ จะมีการประสานไปที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูคต เพื่อขอให้ดำเนินการ เรียกตัวเยาวชนทั้งสองมาดำเนินคดี และส่งไปยังบ้านเมตตาตามขั้นตอนทางกฎหมาย เนื่องจากพฤติการณ์แบบนี้ รุนแรงถึงขั้นร่วมกันทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่การเล่นกันของเด็กตามปกติที่ควรจะเป็น เพราะหากไม่สามารถดับไฟได้ทัน อาจลุกลามบานปลาย ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสมากกว่านี้ หรือเสียชีวิตได้ และตนเองจะประสานไปยังกระทรวงยุติธรรม พร้อมพาผู้เสียหายไปพบ เพื่อขอการช่วยเหลือตามกองทุนยุติธรรมอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้
----------------
ด้านนางสาวเอ แม่ของเยาวชนผู้บาดเจ็บ ระบุว่า หลังจากตนเองทราบเรื่อง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะสงสารลูกที่ต้องทนกับอาการบาดเจ็บ
ประกอบกับเมื่อตำรวจได้รับการแจ้งความจากตนเอง กลับมีการเรียกคู่กรณีมา แล้วบอกให้ตนเองเจรจากับทางผู้ปกครองของทางคู่กรณี เพราะเห็นว่าเป็นการเล่นกันของเด็ก
แต่ตนเองยืนยันจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด ไม่ต้องการขอรับการเจรจาใด ๆจากทางคู่กรณี แต่ตำรวจกลับบอกว่า ถ้าไม่มีการเจรจา ก็กลับบ้านไป ตนเองจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านในทันที เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา และตัดสินใจ ติดต่อมายังสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ
สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เท่าที่ได้สังเกต และสอบถามจากลูกชาย ก็ทำให้รู้ว่า เคยมีการมาทำร้ายร่างกายลูกชายก่อนหน้านี้หลายครั้ง ตลอดช่วงสามเดือนที่ตนย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ในตอนแรกตนเองเข้าใจว่า เป็นการเล่นกันของเด็กเด็กตามธรรมดาเพราะจะเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายกลับบ้านมาเป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงหนักขึ้นถึงขั้นมีการเผากันแบบนี้
ส่วนคู่กรณีที่เป็นผู้ก่อเหตุ ตนเองไม่เคยเห็นในหมู่บ้านมาก่อน เพิ่งที่เคยเจอกันครั้งแรกที่ สภ.คูคต เมื่อคืนนี้ และยังทราบว่า เป็นรุ่นพี่ที่อยู่โรงเรียนเดียวกันกับลูกชายอีกด้วย
ตนเองยืนยันจะดำเนินการทางคดีจนถึงที่สุด และขอฝากถึงเยาวชนที่เป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ขอให้ออกมารับผิดชอบต่อความผิดที่ได้ก่อไว้
และฝากถึงเยาวชนทุกคน อย่าได้เล่นกันรุนแรงถึงขนาดนี้ เพราะผู้ที่เสียใจที่สุดคือผู้ปกครองของผู้ที่รับบาดเจ็บ อย่างเช่นตนเอง ที่ต้องมาทนเห็นสภาพลูกชายได้รับบาดเจ็บ จากสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
-------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/X8iq5y2rkhE