สังคม
'เจ๊กุ้ง' แจ้งความ 8 นร.บุกเข้าบ้านขโมยกินกล้วย ตร.โต้ไม่ได้กลั่นแกล้ง จ่อออกหมายเรียกตาม กม.
โดย paweena_c
9 ธ.ค. 2565
85 views
หัวจะปวด! หญิงวัย 33 ปี แจ้งความจับเด็ก 8 คน เป็นเด็กอนุบาลถึง ป.6 หลังจับได้ว่าเด็ก ๆ บุกรุกเข้าไปในบ้านแล้วขโมยกินกล้วยน้ำว้าไป 1 หวี เรียกค่าสินไหมคนละ 2,000 บาท ด้านตำรวจบ้าจี้ ออกหมายเรียกเด็ก ทำเด็กผวากลายเป็นผู้ต้องหาตั้งแต่อายุยังน้อย
นี่เป็นคลิปที่ผู้ปกครองถ่ายไว้ได้ ขณะที่เจ้าของบ้านเรียกเด็ก 8 คน อายุ 5-12 ขวบ มาสอบสวน โดยชี้หน้าเด็ก ๆ แล้วถามว่า ใครเป็นคนทำ เข้าไปทำไม เข้าไปรื้ออะไร แล้วบังคับให้เด็กพูด บอกพูดมา ๆ
กระทั่งมี 1 ในผู้ปกครอง เข้าไปบอกว่า อย่ามาถามเด็กแบบนี้ ไปคุยกันที่โรงพักเลย หญิงเจ้าของบ้านก็สวนมาว่า อย่าเข้าข้างลูกมากเกินไป ฝ่ายผู้ปกครองเริ่มเสียงดัง บอกว่า ไม่ได้เข้าข้าง ทางเจ้าของบ้านก็ไม่ยอมที่ถูกผู้ปกครองเด็กชี้หน้า เกิดการโต้เถียงกันสนั่น ผู้ปกครองบอกคุณคุยไม่รู้เรื่องแบบนี้ต้องกินยาแล้ว ฝ่ายเจ้าของบ้านสวนทันควันว่า คุณก็ต้องกินยา ลูกคุณก็ต้องกินยาด้วย ไปฟังเสียงช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านโคกสำโรง อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้พบกับผู้ปกครองเด็ก 1 ใน 8 คนที่ถูกตำรวจออกหมายเรียก รายนี้เป็นเด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ ถูกหมายเรียกของตำรวจ สภ.ประโคนชัย ในข้อหา "ร่วมกันบุกรุก และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์"
แม่ของเด็กชายวัย 7 ขวบ บอกว่า เมื่อช่วง 2 ทุ่ม ของวันที่ 14 ตุลาคม น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนในหมู่บ้าน ได้เรียกเด็ก 8 คน อายุ 5 ถึง 12 ขวบ ไปที่บ้าน แล้วถ่ายคลิปสอบสวนเด็ก ที่เข้าไปในห้องครัว แล้วกินกล้วยน้ำว้าหมดไป 1 หวี พร้อมอ้างว่า มีทรัพย์สินอื่น ๆ ภายในบ้านเสียหาย
จึงได้สอบถามลูกชาย ยอมรับว่า ได้เข้าไปที่ห้องครัวของ น.ส.กุ้ง แล้วไปกินกล้วยจริง แต่ไม่ได้ไปทำลายทรัพย์สิน สาเหตุที่เข้าไป เพราะห้องครัวเป็นห้องครัวแบบโล่ง ไม่มีฝากั้น ประกอบกับเคยไปบ้านหลังนี้เป็นประจำ เพราะของบ้านเคยเรียกให้ลูกชายกับเพื่อน ๆ ไปซื้อไก่ป๊อป ที่เหลือจากการขายในตัวอำเภอ อีกทั้งลูกชายเจ้าของบ้าน ก็เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน
กระทั่งวันที่ 30 พฤศจิกายน เด็ก ๆ ได้รับหมายเรียกลงนามโดย พันตำรวจโท ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตสอบสวน สภ.ประโคนชัย บอกให้เด็กและผู้ปกครองไปพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 4 ธันวาคม ตนกับผู้ปกครองคนอื่นรวม 8 คน ตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเด็กวัยขนาดนี้จะได้รับหมายเรียก
ในวันที่ 4 ธันวาคม ผู้ปกครองทุกคนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้นเจ้าของบ้านเรียกเงินค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท แต่ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท มีผู้ปกครอง 4 คน ยอมจ่ายเพราะไม่อยากมีเรื่อง ตนเองเป็นหนึ่งคนที่ยอมจ่าย ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ ไม่จ่าย เพราะว่าไม่ได้ไปด้วย ที่ตนอึ้งคือมีเด็ก 5 ขวบ เรียนแค่ชั้นอนุบาลซึ่งไม่รู้เรื่องด้วย ยังถูกกล่าวหา โดยไม่ยอมลดราวาศอก
ด้านพ่อของเด็กชายวัย 9 ขวบ บอกว่า ไม่ยอมจ่ายเงิน 2,000 บาทเด็ดขาด เพราะลูกชายไม่ได้ไปด้วย วันที่ น.ส.กุ้ง เรียกเด็กทั้งหมดไปสอบสวนที่บ้าน ตนก็ไปด้วยจนมีปากเสียงกัน เพราะเขาทำเกินกว่าเหตุ เค้นถามเด็กเหมือนคดีฆ่าคนตาย ที่ติดใจมากที่สุดคือ "หมายเรียก" ของตำรวจที่ส่งมาที่บ้าน ระบุชื่อเด็กชัดเจน เด็กอ่านหนังสือออกแล้ว ก็เกิดอาการหวาดผวา กลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเริ่มเหม่อลอย ไม่ยอมไปเล่นเหมือนที่เคยไป
ผู้สื่อข่าวไปที่บ้าน น.ส.กุ้ง พบว่าประตูบ้านล็อกกุญแจ แต่สังเกตเห็นว่า บริเวณห้องครัวเปิดโล่ง ไม่มีผนังกั้น ทำให้สามารถเดินเข้าไปในห้องครัวได้
จากนั้นผู้สื่อข่าวไปที่ร้านขายไก่ป๊อบ ได้เจอกับ น.ส.กุ้ง พร้อมเผยว่า ตนเองเพิ่งกลับมาอยู่บ้านที่ อ.ประโคนชัย ได้ประมาณ 6 เดือน ยึดอาชีพขายไก่ป๊อป จะออกบ้านตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านประมาณ 17.00 - 20.00 น.ทุกวัน
ที่ผ่านมาตนได้รับความเดือดร้อนเหมือนถูกกลั่นแกล้งมาหลายครั้ง เคยถูกเอาไข่เน่ามาขว้างที่บ้าน เอกสารภายในบ้านถูกรื้อค้น เสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถูกเอามาเททิ้งทั่วบริเวณ แต่หาตัวคนทำไม่ได้
ล่าสุดกล้วยน้ำว้าที่ซื้อมาเก็บไว้ในห้องครัวหวังจะเอามากิน หายไปทั้งหวี จนกระทั่งจับเด็กมาสอบจึงรู้ความจริงทั้งหมด ยอมรับว่าได้เรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาทจริง แต่เห็นใจลดให้ 2,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4 คน หากไม่จ่ายจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.กิ๊ก อายุ 36 ปี พี่สาว น.ส.กุ้ง เผยว่า น้องสาวถูกกลั่นแกล้งจริง ทั้งโดนปาไข่เน่า เทน้ำยาซักผ้า รื้อค้นเอกสาร และกล้วยที่ซื้อไว้หายไป ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันเดียวกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือเด็กหรือผู้ใหญ่ ทำให้น้องสาวเกิดความเครียด และหาตัวคนก่อเหตุ จนกระทั่งมีเด็กมายอมรับผิด
พันตำรวจโท ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตรสอบสวน สภ.ประโคนชัย คนออกหมายเรียก เผยว่า การออกหมายเรียกทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้ามีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิด ก็ต้องออกหมายเรียกตามกระบวนการ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ตอนนี้ออกหมายเรียกเด็กไปแล้ว 4 คน ส่วนอีก 4 คน หาก น.ส.กุ้ง มีความประสงค์จะดำเนินคดี จะต้องออกหมายเรียกอีกเช่นเดียวกัน
ด้าน พันตำรวจเอก เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย ยืนยันว่า เรื่องนี้ตำรวจทำตามกระบวนการจริง ข้อเท็จจริงคือ เด็กบุกรุกเข้าไปที่บ้านจริง มีความเสียหายจริง ก็ต้องออกหมายเรียก ซึ่งไม่สามารถออกหมายเรียกเป็นชื่อผู้ปกครองได้ เพราะผู้ปกครองไม่ได้ทำ
ส่วนเรื่องที่พูดกันว่า คนแจ้งความเป็นเพื่อนสนิทของสารวัตร ขอชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวกัน หลังมีกระแสดราม่า ตนจะเข้าไปดูคดีเอง เบื้องต้นพบว่า มีความขัดแย้งกันมากกว่าเรื่องเด็กขโมยกินกล้วย