ผกก.แจงไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ปมไม่จับการ์ดผับรุมสาวเมา

สาวร้องร้านเหล้า ถนนข้าวสารเปิดเกินเวลา และถูกการ์ดรุมทำร้าย


จากกรณีเพจอยากดัง เดี๋ยวจัดให้ part 5.2 โพสต์ คลิป และข้อความว่าโดนรุมทำร้ายที่ร้านเหล้า พื้นที่ สน.ชนะสงคราม ขอความเป็นธรรมกลัวคดีเงียบไม่คืบ สื่อสังคมช่วยตรวจสอบด้วย ตอนโดนรุมกระทืบ วิ่งหาขอความช่วยเหลือตำรวจยังไม่สนใจเลยคะต้องโทร 191ตำรวจถึงมาโดนผู้ชายรุมทำร้ายคะ ลูกเจ้าของร้าน พ่อเป็น ตำรวจ(ใช่หรือไม่) ลูกชาย กับเมีย และ การ์ดมารุมคะ หนูผู้หญิงคนเดียว ทั้งเหยียบทั้งแตะ ทั้งกระทืบ และไปแจ้งความ ตำรวจไม่สนใจ โดนรุมทำร้ายตอนตี 5 ร้านเปิดเกินเวลา

พร้อมระบุ ชื่อ ร้านย่าน ถ.ข้าวสาร สน.ชนะสงคราม ที่โดน เพราะ เข้าไปช่วยเพื่อน เรื่อง เพื่อน เอาลูกโป่งเข้าร้าน



โดยในคลิป จะเห็นผู้หญิง สวมเสื้อสีครีม ใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย เลือดอาบ และรอยขีดข่วนเต็มใบหน้า ยืนอยู่บริเวณหน้าโรงพัก สน.ชนะสงคราม โดยผู้หญิงคนดังกล่าวพูดทำนองว่า ร้านอาหารแห่งหนึ่งต้องปิดตี 2 แต่ปิดเวลา ตี 5 ซึ่งเปิดเกินเวลา และยังบอกอีกว่า "ดูหน้ากู กูโดนกระทืบ สิบตีน แต่มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับไม่รับแจ้งความ ไม่สนใจ และยืนต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเห็นคนที่ทำร้ายร่างกายตนเอง ซึ่ง ซึ่งหน้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมจับตัวไปดำเนินคดี "



ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ ที่เกิดเหตุ บริเวณถนนข้าวสาร พบว่าร้านปิดถูกล็อคด้วยกุญแจ และคาดว่าร้านน่าจะเปิดช่วงเย็น



จากการสอบถาม นางสาวมายา อายุ 45 ผู้บาดเจ็บ บอกว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 เวลาตี 4 เธอเองเดินทางไปที่ผับแห่งหนึ่งบนถนนข้าวสาร พร้อมกับเพื่อนชายและหญิงอีกสองคน

ซึ่งผับแห่งนี้เธอเองไปมาแล้วหลายครั้ง เธอเองได้เสียค่าเข้าคนละ 100 บาท และเปิดเหล้ามิกเซอร์รวมกัน 3,000 กว่าบาท ขณะที่อยู่ในร้าน พนักงานในร้านเห็นว่าเพื่อนชายของเธอพก "แก๊สลูกโป่งหัวเราะ" เข้ามาในร้าน

ทำให้ลูกสะใภ้ของเจ้าของร้านเรียกเพื่อนชายของเธอออกมาพูดคุยนอกร้าน และบอกว่าไม่ให้เอาเข้าแก๊ส เข้าร้าน เนื่องจากในร้านมีขายอยู่แล้วหากจะเอาเข้าต้องจ่ายเงิน 300 บาท เธอเองจึงเดินตามออกมาด้วย และพยายามบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ควรที่จะมาเก็บเงิน และพวกเธอก็เป็นลูกค้าประจำด้วย จนทำให้เกิดปากเสียงกันขึ้น





โดยถูกลูกชายและลูกสะใภ้เจ้าของร้านเข้ามาทำร้ายตามด้วยกาดผู้ชายนับสิบคนเข้ามารุมกระทืบ ตนเองพยายามกลมหัวและเอามือป้องกันตัวเองแต่สุดท้ายก็โดนเตะเข้าที่บริเวณหัวหลายครั้ง ทั้งเตะทั้งเหยียบทั้งย่ำ โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้ามตนจึงคลานออกมาจากจุดนั้นได้ หลังจากนั้นตนเองได้เดินไปที่สถานีตำรวจชนะสงคราม เนื่องจากห่างกันเพียง500 เมตร ถึง 600 เมตร แต่พอไปถึง แจ้งว่าตนเองถูกทำร้ายร่างกายมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่สนใจ เมินเฉย ไม่พูดด้วย ตนเองจึงกลับมาที่รถและโทร 191 แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงตนเองก็อยู่บริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุสองสามีภรรยาที่ทำร้ายร่างกายตนขับรถมาพูดคุยกับตำรวจแล้วขับออกไป เสมือนรู้จักกัน ซึ่งตนเองเป็นผู้เสียหายแต่กลับรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม จากนั้นได้กลับไปแจ้งความที่โรงพักอีกรอบโทรหาผู้กำกับ ผู้กำกับจึงช่วยประสานงานให้รับแจ้งความ



ตนเองยอมรับว่ามีอาการมึนเมาจริง แต่ยังไงก็ตามตนเองเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บมาชัดเจน ถูกรุมทำร้ายมา อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลประชาชนให้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเหมือนกับเราไม่มีตัวตนและไม่ใช่มนุษย์ซึ่งตอนนี้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจดีมากขึ้นกว่าเมื่อวานที่ตนเองไปแจ้งความ

ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเนื่องจากทางร้านยังไม่มีใครออกมาขอโทษและตนเองยังได้รับบาดเจ็บ บริเวณศีรษะและใบหน้าดวงตา ซึ่งทำให้ตนเองถึงกับนอนผวา สภาพจิตใจแย่มาก หากมีการไกล่เกลี่ย ก็จะลองคุยดูก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร



ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่สน. ชนะสงคราม เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยทาง พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นผู้เสียหายได้ติดต่อเข้ามาหาตนเองโดยตรง และได้เข้ามาแจ้งความไว้ที่ สน. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ให้ผู้เสียหายเข้าไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วนำผลตรวจมายื่นกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลของการตรวจสภาพร่างกายจะใช้ในการนำมาประกอบในสำนวนคดีอีกครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคดีอย่างเคร่งครัดไม่ปล่อยประละเลย และบ่ายวันนี้จะมีการนัดคู่กรณีเพื่อเข้ามาพูดคุยไกล่เกลียกันในเบื้องต้น เนื่องจากทางคู่กรณี ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันมานาน