'สุชาติ' เปิดใจ รู้สึกโกรธ 'สจ.เปี๊ยก' ดิสเครดิต ย้ำเป็นธรรมเนียม เห็นลูกน้องเก่าเลยเข้าไปเขกกบาล

'สุชาติ' เปิดใจช่อง3 รู้สึกโกรธ บอก สจ.เปี๊ยกใส่ความ-ดิสเครดิตทางการเมือง ย้ำชัด เป็นธรรมเนียมปกติเห็นลูกน้องเก่าเลยเข้าไปเขกกบาล ลืมนึกคู่กรณีไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้ว ขอดูรายละเอียดก่อนแจ้งความกลับหรือไม่ ชี้ การเมืองปลายสมัยดุเดือด ลั่น ก็ว่าไป หลังถูกถามเตรียมย้ายซบ “เพื่อไทย” หรือไม่ บอกใกล้เลือกตั้งคงจะรู้


28 พ.ย.2565 นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับผู้สื่อข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงกรณีที่นายวรรณา รอดพิทักษ์ หรือ ส.จ.เปี๊ยก รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความว่านายสุชาติ ตบหัวและบ้องหูด้านซ้ายกลางงานศพในจังหวัดฉะเชิงเทรา


โดยนายสุชาติ ระบุว่า ตนคาดว่า น่าจะเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า เพราะ สจ.เปี๊ยก เปรียบเสมือนเด็กในบ้าน อยู่กับตนมาหลายสิบปี แล้วช่วงหลังไม่ได้พบกันมานาน เพิ่งกลับมาเจอกันในงานศพดังกล่าว โดยตนแค่ตั้งใจเดินไปทักทาย สอบถามว่าทำไมชอบด่าตนลับหลัง ตนไปทำอะไรให้


“ธรรมเนียม ผมทักลูกน้อง ก็จะเอามือเขกกบาลหน่อยนึง แค่นั้นเเหละ ทีนี้ก็เป็นเรื่องการเมือง คงจะได้ทีพอดี ก็เลยทำเป็นเรื่องใหญ่โต”


นายสุชาติ เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์วันดังกล่าว ว่า ตนไปร่วมงานศพ  สจ.เปี๊ยกนั่งอยู่ด้านหน้า แถวประธานในพิธี ตนได้เป็นประธานในพิธี ซึ่งต้องเดินผ่าน สจ.เปี๊ยก เมื่อเห็นจึงทักว่า “เป็นไงเปี๊ยก” ตนแค่เอามือเขกกบาลไปเท่านั้น


“เอามือเขกกบาลตามประสาผู้ใหญ่ทักเด็ก ตามที่ผมทักทั่วๆไป แล้วพูดว่าทำไมชอบด่าจัง แค่นั้น พูดแค่นี้”


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการทักทาย เป็นลักษณะทีเล่นทีจริงใช่หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า ใช่ เพียงแต่ว่าตนเห็นว่าเป็นลูกน้องเก่า หากเห็นว่าเป็นศัตรูจะไม่เข้าไปยุ่ง ตนก็ลืมนึกไปถึงเรื่องการเมือง ว่าเดี๋ยวนี้ สจ.เปี๊ยกไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้ว


“เราก็ลืมไปเพราะเห็นว่าเป็นลูกน้องเก่า ถ้าเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม เราจะไม่เข้าไปยุ่งเลย เราจะเข้าไปยุ่งทำไม เราก็รู้อยู่ว่าการเมืองเป็นอย่างไร พยายามจะดิสเครดิตแต่ละฝ่ายกันอยู่ เรื่องนี้ไม่ควรเป็นข่าวหน้าหนึ่งด้วยซ้ำ แต่เอาแหละ ก็เป็นวิธีทางการเมืองของแต่ละคน”


นายสุชาติ ยังยืนยันว่าหลังเกิดเหตุการณ์ สจ.เปี๊ยกก็ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ด่า ยังนั่งติดกัน พร้อมยืนยันว่าตนโกรธที่ สจ.เปี๊ยกพยายามใส่ความว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์มีรถปริศนาขับตามไป 3 คัน


“ผมจะขับตามไปได้อย่างไร ผมยังนั่งเป็นประธานอยู่ เขาออกไปก่อน จะมีไปได้ยังไง ผมโกรธตรงนี้ มาใส่ความกัน ตัวเขาเอง (สจ.เปี๊ยก) มีรถตามเยอะ มีมือปืนคุ้มกันตั้งเยอะแยะ ตัวผมเองมีที่ไหน ผมนั่งเป็นประธาน กว่าจะไปตั้งนาน”


เมื่อถามว่าหลังจากนั้นได้มีการติดต่อพูดคุยกันหรือไม่ นายสุชาติ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะไม่ได้เจอกันนานหลายปี พอเจอก็อยากไปทักทายกัน ส่วนจะมีการแจ้งความกลับหรือไม่ ตนขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่า สจ.เปี๊ยก แจ้งความจับตนอย่างไร เพราะมองว่าไม่มีการข่มขู่ หรืออาฆาตมาดร้าย


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเมื่อเป็นการดิสเครดิต แสดงว่าตอนนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง และพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราน่าจะมีการช่วงชิงกันอย่างดุเดือดใช่หรือไม่ นายสุชาติตอบว่าสมัยต่อไปดุเดือดกันทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ส่วนสมัยหน้าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสุชาติตอบว่าตอนนี้ต้นยังอยู่พรรคพลังประชารัฐอยู่ ยังมีเวลาเหลืออยู่


เมื่อถามว่ามีกระแสว่าจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน นายสุชาติระบุว่าก็พูดกันไป ก็ว่ากันไป ใกล้เลือกตั้งก็คงจะรู้ว่าจะอยู่ที่ไหน