'ชุมชน 70 ไร่' เสียงแตก ต้นซอยบอกมีบ่อน ท้ายซอยบอกไม่มี - สน.ท่าเรือยันไม่มีบ่อน มีแค่ลักลอบเล่นพนัน

ชาวชุมชน 70 ไร่คลองเตย เสียงแตก ต้นซอยบอกมีบ่อน ท้ายซอยบอกไม่มี ด้านนายอ๊อดหัวโจก อ้างเป็นเจ้าของ เปิดใจ แค่เล่นพนันกับครอบครัวไม่ใช่บ่อน และไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล พร้อมเปิดบ้านให้ดูทุกซอกมุม ยอมรับเคยเล่นแต่เลิกแล้ว ด้านชาวบ้านต้นซอย ยันเป็นบ่อนเปิดมานาน เคยมีคนเล่นตั้งแต่สาวยันแก่ จนตาย เสียเงินหลักแสน ตร.รู้แต่ไม่มีใครกล้าจับ

กลายเป็นประเด็นร้อนจากกรณีที่ นายวันฉัตร (เฟียต) อายุ 36 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก ซอย 23 ชุมชน 70 ไร่ คลองเตย โดยกล้องวงจรปิด บันทึกภาพ จะเห็นว่ามีกลุ่มคู่อริ หลายคนพร้อมอาวุธครบมือ เดินเข้าไปที่บ้านของนายเฟียต ก่อนจะมีปากเสียงกันและเสียงปืนดังขึ้น  

ต่อมา ตำรวจจับกุมนายเดี่ยว ผู้ก่อเหตุยิงนายเฟียตได้ พร้อมของกลางและดำเนินคดี ซึ่งทางครอบครัวนายเฟียต ระบุว่า ตำรวจไม่ดำเนินการกับกลุ่มที่ยกพวกมาทำร้ายพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งมีหัวหน้าแก๊ง คือนายอ๊อด ซึ่งกลุ่มของผู้เสียชีวิต ระบุว่า นายอ๊อด เป็นผู้มีอิทธิพลสนิทกับนักการเมืองระดับประเทศ และที่สำคัญนายอ๊อดยังเปิดบ่อนในชุมชนอีกด้วย

วานนี้เลยเป็นที่มาการตรวจสอบ ว่าที่ชุมชน 70 ไร่ มีบ่อน จริงหรือไม่ ทีมข่าวลงพื้นที่ บริเวณ ซอย 23 ชุมชน 70 ไร่ ชาวบ้านต้นซอยต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าในชุมชน 70 ไร่ มีบ่อน

ป้านิด บอกกับทีมข่าวว่า ยืนยัน มีบ่อนแน่นนอน ตัวป้าเองก็เคยไปแทงไฮโลเสียเงินหลายบาท ญาติกันก็ไปเล่น ชาวบ้านไปเล่นเสียเป็นแสนก็มี ที่นี่เป็นบ่อนจริงๆ เล่นกันมานานแล้ว ญาติป้า เคยเล่นตั้งแต่ยังมีชีวิต จนแก่ตายก็มี ไม่รู้ว่าที่ นี่เรียกว่าบ่อนหรือมั้ย แต่เปิดให้เล่นแบบตลอดไม่มีกำหนดเวลาเปิด-ปิด ขาครบเมื่อไหร่ก็เล่นเลย บางทีก็เล่นยันสว่างก็มี  

นอกจากนี้ ยังมี ป้านก บอกว่า ไปเล่นที่บ้านนายอ๊อดจริงๆ และไม่ได้นั่งเล่นที่โต๊ะไม้ แต่เล่นในบ้านของนายอ๊อด ไม่รู้ว่าเรียกว่าบ่อนหรือไม่ แต่เล่นกันทั้งหมด 16 ขา มีเปิดแอร์ มีกล้องวงจรปิด และมีห้องน้ำ อยู่ใต้บันได แต่เล่นมานานเเมื่อ 5 ปีแล้ว ปัจจุบันไม่ได้เข้าไปเล่น ป้านกยังบอกอีกว่า ระหว่างที่เล่นก็เคยมีตำรวจมาจับ แต่ป้าไม่ได้ไปเล่นในวันนั้น

ต่อมา ทีมข่าวของเรา ไปดูจุดที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นบ่อน และเป็นบ้านของนายอ๊อด ชายที่ถูกระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลและเจ้าของบ่อน ทางเข้าอยู่ชุมชน 70 ไร่ ซอย 29 ระหว่างเดินทางผ่านบ้านชาวบ้าน ก็สอบถามว่า ที่นี่มีบ่อนหรือไม่ ปรากฎว่าชาวบ้านท้ายซอยบางคนบอกว่าไม่มีบ่อน บางคนบอกมี และบางคนส่ายหน้า บอกว่าไม่อยากจะมีเรื่อง

เมื่อเดินเข้าไปทางเข้าก็เป็นทางเล็กๆ ลักษณะชุมชนคลองเตย เมื่อไปถึงช่วงกลางซอย ชาวบ้านบอกว่านี่คือบ้านนายอ๊อด ด้านข้างบ้านมีโต๊ะไม้พร้อมเก้าอี้ อยู่ข้างบ้าน เป็นที่โล่ง ติดทางเดินในชุมชน พบหลานและภรรยาของนายอ๊อด พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่นี่ไม่ใช่บ่อน ไม่มีบ่อน ให้นักข่าวดูสภาพ จะเป็นบ่อนได้อย่างไร ทางกลุ่มของนายเฟียตผู้เสียชีวิตพูดไม่เป็นความจริง

จากนั้น นายอ๊อดก็เดินทางกลับมาจาก สน.ท่าเรือ เปิดใจกับทีมข่าวว่า บ้านของตนเองไม่ใช่บ่อน พร้อมเปิดให้ดูภายในบ้าน ทุกซอกมุมเป็นบานสองชั้น มี 2 ห้องนอน ชั้นล่างเป็นห้องโถง

นายอ๊อดยอมรับว่า ในอดีตเคยเล่นพนันแทงไฮโล กับเพื่อนๆ เล่นแบบในครอบครัวไม่ได้เล่นเป็นบ่อนหรือเล่นประจำ ก็แอบเล่นกัน และก็ให้เด็กวัยรุ่นในซอยดูต้นทางตำรวจมา ก็เก็บเลิกเล่น

ทีมข่าวเปิดภาพให้ดูว่า มีการเล่นพนันที่โต๊ะลักษณะคล้ายโต๊ะนี้ และมีการวางเงินพนันหลักพัน นายอ๊อดยอมรับว่ เล่นกันจริง เล่นตรงนี้แหละ แต่ในภาพวันนั้น ตนเองไม่ได้เล่นด้วย และเป็นภาพเก่า เมื่อปี 64 ไม่ใช่ภาพปัจจุบัน

ปัจจุบันนี้ไม่ได้เล่น ไม่มีแล้ว ตนก็ทำอาชีพค้าขาย อยู่กับครอบครัว และมีเด็กๆ ในชุมชนเคารพนับถือ ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น กรณีที่ระบุว่าตนสนิทกับนักการเมืองดัง ก็ไม่เป็นความจริง แค่เคยถ่ายรูปด้วย ตอนเขามาแจกของ และก็ถ่ายรูปเท่านั้น ผมคือนายอ๊อด คนธรรมดาไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง

ขณะที่ช่วงเย็น คุณกัน จอมพลัง พร้อมกับทีมงาน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่า ที่นี่เป็นบ่อนตามข้อมูลหรือไม่ เมื่อเข้าไปถึง กันจอมพลัง ก็ถามว่า คือบ่อนหรือไม่

หลานนายอ๊อด บอกว่า นี่คือโต๊ะกินข้าว โต๊ะนั่งเล่น จากนั้นกันจอมพลังก็เปิดภาพ ว่านี่ใช่โต๊ะที่เล่นพนันหรือไม่ หลายของนายอ้อดบอกว่า ที่นี่ไม่มีบ่อน ไม่ได้เล่น แต่ในภาพ ก็เป็นภาพเก่า เคยมีเล่นกับเครือญาติ แต่จำชื่อญาติไม่ได้ และพบว่าที่นี่ทีกล้องวงจรปิดหลายตัวทุกมุม ทางหลานนายอ๊อด บอกว่า ก็ติดรักษาความปลอดภัย

ทางด้านคดีการเสียชีวิตของ นายเฟียต ต้นเหตุของการขยายไปเรื่องบ่อน เรื่องนี้ต้องบอกว่าภาพวงจรปิด เห็นชัดเจนว่ากลุ่มอ๊อดนับสิบคน ถืออาวุธทั้งไม้ ไม้เบสบอลและอุปกรณ์ วิ่งกรูเข้าไปบ้านของนายเฟียตเพื่อเคลียร์ปัญหา

เรื่องนี้ นางธิติมา อายุ 63 ปี แม่ของนายเฟียต บอกว่า ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกลุ่มที่ถืออาวุธเข้ามารุมทำร้ายลูกชาย เขามาเป็นสิบคน แต่ดำเนินคดี แค่นายเดี่ยวคนยิงคนเดียว คนอื่นกลับไม่ดำเนินคดี ซึ่งลูกชายแม่ทั้งเฟียตและโฟล์ค มีปัญหากับนายอ๊อดมานาน

เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา รุ่นพี่ของลูกชายคนโตของตนไปมีปัญหาชกต่อยกับลูกน้องของ “นายอ๊อด” และรู้ว่านายอ๊อด  แอบเปิดบ่อนในชุมชนมานานเกือบ 10 ปีด้วย จะเป็นลักษณะเปิดๆ ปิดๆ โดยที่ตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไร จึงผูกแค้นใจเจ็บกันมานาน แต่วันเกิดเหตุ เขายกพวกมาเป็นสิบมาทำร้ายและฆ่าลูกแม่ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับคนร่วมก่อเหตุด้วย

ประเด็นนี้ ทางด้านนายอ๊อด ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหัวโจก ที่พาพวกไปทำร้ายนายเฟียต นายอ๊อดชี้แจงว่า ไม่ได้ยกพวกไปรุมทำร้าย แต่ถูกนายเฟียตมามีเรื่องกับนายแป๊กลูกน้องของตน โดยมีเรื่องกันมาหลายครั้งแล้ว จากนั้นพวกนายเฟียตก็เข้ามาที่ร้านซ่อมรถปากซอย ยกพวกมาก่อน โดยมีกล้องวงจรปิดเห็นว่าเขาเข้ามาก่อน

ตอนนั้นตนเองเข้านอนแล้ว แต่เด็กๆ ก็มาตาม ตนเลยจะไปถาม ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไปบ้านเขาก็ต้องป้องกัน เพราะคนที่มีอิทธิพล ไม่ใช่ตนแต่เป็นกลุ่มบ้านนายเฟียต เมื่อไปถึงก็จะเข้าไปถาม แต่พอได้ยินเสียงปืนก็พากันถอยออกมา คนที่ยิงก็คือนายเดี่ยว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่านายเดี่ยวมีปืนไปด้วยและยิงนายเฟียต ตำรวจก็จับไปแล้ว จะมาว่าตนร่วมทำร้ายจนนายเฟียตตาย ก็ไม่เป็นธรรม หากตำรวจจะดำเนินคดีก็พร้อมว่ากันตามหลักฐาน แต่ขอความเป็นธรรมฝั่งตนบ้าง
----------------

วานนี้ (22 พ.ย. 65) พันตำรวจเอก ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ ระบุถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า ล่าสุดส่วนตัวนายมนัส หรือเดี่ยว ผู้ก่อเหตุหลังจับกุมได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง โดยสาเหตุมาจากปัญหาผิดใจกันส่วนตัว ในเรื่องบุกรุกที่ดิน และเรื่องอื่นๆ

แต่ขณะนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 6 ราย ที่ผู้เสียหายสามารถระบุตัวตนได้

โดยข้อหาที่จะมีการออกหมายจับคือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่ง เบื้องต้นทราบว่ามีการประสานเตรียมเข้ามอบตัวแล้วบางส่วน ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตยังคงอ้างว่ามาจากสาเหตุการป้องกันตัว ที่ผู้เสียชีวิตจะเข้าไปทำร้ายกลุ่มตนเอง ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถให้การได้

ขณะที่ประเด็นที่ มีการพูดถึงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายเช่น ยาเสพติด หรือบ่อนการพนัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบขอยืนยันว่าในพื้นที่ของ สน.ท่าเรือ ไม่มีบ่อนการพนัน แต่อาจจะมีบ้างที่เป็นการลักลอบเล่นการพนันตามบ้านต่างๆ ซึ่งในส่วนของ สน.ท่าเรือ ได้มีการระดมกำลังกันเข้ากวาดล้างจับกุมอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเพียงกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ที่ฝักใฝ่การเมือง มีการเข้าร่วมกันคนละฝ่าย ซึ่งจากการสอบถามพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพื้นที่ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้ที่หนุนหลังกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงคาดว่าเป็นเพียงกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการเคลื่อนไหว สร้างชื่อภายในพื้นที่เพียงเท่านั้น

และจากการสืบสวนยังพบว่า ทั้งสองกลุ่มมีปัญหาผิดใจบาดหมางกันมานาน และพยามเคลื่อนไหวในการสร้างชื่อเสียงในลักษณะเดียวกัน และในส่วนของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตก็เคยมีคดีความเกี่ยวกับเรื่องของการทำร้ายร่างกายกันอยู่ทั้งสองฝ่าย

ส่วนเรื่องยาเสพติดว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับการเสพหรือไม่จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนอาวุธปืนที่ได้มาพร้อมกับตัวผู้ต้องหาเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ดัดแปลงมาจากบีบีกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ตรงกับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุจริง ซึ่งผู้ก่อเหตุมีการเตรียมมาเอง ไม่ได้มีบุคคลอื่นมาส่งให้ที่จุดเกิดเหตุ ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้
----------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/OMSlwnP6dH4