อาชญากรรม

รวบ 2 จนท.รัฐ ฉกข้อมูลทะเบียนราษฎร์คนไทย ขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แลกเงินเดือน 6 แสน เร่งขยายผลรวบทั้งขบวนการ

โดย petchpawee_k

29 ต.ค. 2565

616 views

รอง ผบ.ตร. ขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ จนท.รัฐ สองหน่วยงาน ขายข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์  มีรายได้เสริมกว่า 6 แสนบาทต่อเดือน พร้อมเตรียมขยายผลเจ้าหน้าที่ธนาคารร่วมด้วย


 จากกรณี อดีตแพทย์ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกคนร้าย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินสูญกว่า 6.9 ล้าน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เหตุเกิดช่วงเดือนกรกฎาคม 2565


ต่อมา เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง บช.สอท. เปิดปฏิบัติการ ‘เด็ดปีกมังกร’ จับผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ 16 ราย เป็นกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า 8 ราย กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้นายทุนชาวจีน 1 ราย และกลุ่มที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 ราย


ความคืบหน้าคดีนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการสืบสวน และขยายผล พบว่า คนร้ายที่หลอกคุณหมอรายนี้ พบว่าหัวโจกใหญ่ของการหลอกครั้งนี้ คือ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำหน้าที่หาข้อมูลส่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์”


 โดยผู้ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 รายดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ กระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ว่าจ้างกด ทร.14 และ และเป็น ตำรวจยศ พ.ต.ท. ตำแหน่งสวป.สภ.อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่ กด ทร.14    


จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐ 2 คนนี้เป็นคนละหน่วยงานกัน แต่มีอำนาจหน้าที่ สามารถเข้าสู่ระบบ ทะเบียนราษฎร์ได้ สามารถกดดูประวัติข้อมูลของใครก็ได้ ในประเทศไทย


 รายแรก มีตำแหน่งหน้าที่ สามารถเข้าไปดูประวัติทะเบียนาษฎร์ ข้อมูลส่วนบุคคลได้ (เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.)  พฤติการณ์คือจะเข้ารหัสไปกดดูฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหาย โดยพบว่าเข้าไปกดดูมากจนนับครั้งไม่ถ้วน


 รายที่ 2 เจ้าหน้าที่รัฐ ประจำกระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ จะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและการทำธุรกิจของประชาชน ทำให้รู้ว่า คนไหนมีเงินเยอะ มีธุรกิจอะไรบ้าง


 ทั้งสองคน ถือเป็นหัวโจก ขายข้อมูลให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ยังมีพนักงานธนาคารชื่อดังร่วมด้วย อยู่ระหว่างการขยายผล


พฤติการณ์ของแก๊งนี้ จะทำการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของเหยื่อ หากพบว่า รายใดมีธุรกิจและมีเงินลงทุนสูง ก็จะชี้เป้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ข้อมูล ก็จะประสาน เจ้าหน้าที่ ที่เข้าระบบทะเบียนราษฎร์ของประชาชนได้ หรือที่เรียกว่า ทร.14


 เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก็จะไปหลอกเหยื่อ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ เพราะข้อมูลที่แก๊งนี้นำมาบอกมาขู่เป็นข้อมูลจริงๆ และหากเป็นหมายจับข้อมูลและภาพต่างๆ ก็ตรงกับภาพที่เหยื่อเคยถ่ายบัตรประชาชน ทำให้หลงเชื่ออย่างง่ายดาย


 จากนั้นก็จะหลอกให้โอนเงิน หากเหยื่อรายใดโอนเงินสำเร็จตามเป้า ก็จะมีค่าตอบแทนให้ เจ้าหน้าที่รัฐ 2 คนนี้ ต่อครั้งที่ขายข้อมูลให้ในราคา 20,000 บาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้จากการขายข้อมูลนี้ กว่า 600,000 บาทต่อเดือน  ในแต่ละวันคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะส่งรายละเอียดข้อมูลเหยื่อไม่ต่ำกว่า 100-200 ราย โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีทั้งคู่ 2-3 เดือนแล้ว


ส่วนการไปจับกุมนั้นตำรวจ สืบสวนอาชญกรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ตรวจข้อมูลพบว่า มีความเชื่อมโยงบัญชี และ ตรวจสอบระบบการค้นหาข้อมูลของประชาชนในระบบ ก็พบว่า เจ้าหน้าที่รัฐรายนี้ มีการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ถี่ผิดปกติ


จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การเป็นประโยชน์ ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ,และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งทั้งสองคน ขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำแล้ว และอยู่ระหว่างขยายผล ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่น เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และความสัมพันธ์กับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อขยายผล ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป


 ทั้งนี้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ฝากถึงข้าราชการหน่วยงานรัฐที่ครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลประชาชนว่าอย่าได้กระทำการเช่นนี้ เพราะอาจจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนและมีความผิดต่อกฎหมาย ตอนนี้ สอท.มีคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากถึงแสนกว่าคดีแล้ว และเร่งไล่ล่าเส้นทางการเงินเพื่อยึดอายัดและสกัดไม่ให้เกิดความเสียหายและเหยื่อขยายวงเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสั่งการให้ สอท.เร่งทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน รู้เท่าทัน กลโกงและวิธีการหลอกที่ปรับเปลี่ยน ให้ประชาชนได้รู้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/aKzYoF9uuwI

คุณอาจสนใจ

Related News