สายไหมต้องรอด พาเซียนพนันถูกอุ้มรีดเงิน เข้าสอบปากคำ จี้ สน.โคกคราม ทำคดีด้วยความเป็นธรรม

สายไหมร้องรอด พาผู้เสียหายซึ่งเป็นนักพนัน ถูกซ้อมแล้วรีดเงิน 5 ล้านไปแจ้งความกับตำรวจ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำคดีของตำรวจก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้เสียหายยันกังวลความปลอดภัย


จากเหตุการณ์ ที่นักพนัน 5 คน เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยระบุว่าถูกชายฉกรรจ์ในบ่อนการพนัน ซึ่งอยู่ที่ซอยรามอินทรา 40 แยก 27 กักขัง ซ้อมทำร้ายร่างกาย


ทั้งเอาถุงดำคลุมหัว ทำร้ายร่างกาย และ สุดท้ายได้ข่มขู่ให้โอนเงินผ่านแอปธนาคาร 5 ล้านบาทให้ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ โดยระบุว่าผู้เสียหายเล่นพนันเสือมังกร โกงทางบ่อน และต้องชดใช้เงิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา


ต่อมาผู้เสียหายได้ไปแจ้งความ แต่ตำรวจได้ทำบันทึกให้ทางบ่อน ชดใช้เงินเพียง 5 แสนบาท และไม่ได้มีการแจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่านั้น


ล่าสุดนายเอกภพ ได้พาผู้เสียหายเดินทางเข้าพบพันตำรวจเอกศรีสันต์ เพื่องสังข์ ผู้กำกับการ สน.โคกคราม เพื่อแจ้งความกับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว


นายเอกภพ ระบุว่า ในวันนี้ส่วนตัวมีคำถามที่อยากสอบถามตำรวจ สน.โคกคราม รวมถึงผู้บริหารระดับสูงว่าเหตุใดจึงปล่อยให้ในพื้นที่รับผิดชอบมีบ่อนการพนัน


และตำรวจแจ้งข้อหาเพียงแค่ทำให้เสียทรัพย์ทั้งที่ควรจะเป็นข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ รวมถึงประเด็นการทำร้ายร่างกาย ที่ผู้เสียหายถูกเอาถุงดำคุมล็อคมือ รุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บในบางรายยังคงมีความหวัดวิตกกังวลกับความมืดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งข้อหานี้ก็ไม่ได้มีการพยามพูดถึงในบันทึกแจ้งความ และพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเข้าข่ายการพยายามฆ่า


วันนี้ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความ ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ 3 ข้อหาคือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้านร่างกาย และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว


ขณะที่ผู้เสีหายยืนยันว่าสิ่งที่ตนเองพูดทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และในวันนี้ยังนำหลักฐานเป็นภาพที่ตนเองเคยถ่ายไว้ในสถานที่ดังกล่าวมาให้ตำรวจเพื่อยืนยันสิ่งที่ตนเองพูด


ยอมรับว่ารู้สึกว่าไม่ได้รับเป็นธรรม เพราะการแจ้งข้อหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอีกทั้งมีการพยายามบ่ายเบี่ยงในการรับแจ้งความ และดึงรื่องให้ล่าช้า ทั้งยังมีผู้บริหารของโรงพัก มาพูดทำนองว่าตนเล่นโกงจึงต้องโดนแบบนี้ ซึ่งไม่เป็นธรรม