สำรวจความเสียหายน้ำท่วมอีสานตอนใต้ หลายพื้นที่ถูกตัดขาด ต้องนั่ง ฮ.ส่งเสบียง

น้ำท่วมหนักครั้งนี้จากอิทธิพลพายุโนรู ที่ไปตกหนักติดต่อกัน 15 ชั่วโมง ที่จังหวัดฝั่งอีสานตอนใต้ ทำให้น้ำในแม่น้ำมูลตั้งแต่นครราชสีมา เรื่อยมาถึงศรีสะเกษ มีปริมาณมาก จนไม่ต่างจากทะเลสาป โดยเฉพาะอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีหลายตำบลถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แต่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายก็พยายามหาทางช่วยเหลือเต็มที่



หลายตำบลของอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีษะเกษ ที่อยู่ตามสองฝั่งลำน้ำมูล ถูกน้ำเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้าง และกำลังไหลบ่าลงที่ลุ่มตามทิศทางการไหลของแม่น้ำมูล มุ่งหน้ามาที่อุบลราชธานี



ตอนนี้มีอย่างน้อย 11 หมู่บ้าน ในตำบลบัวน้อย ถูกน้ำตัดขาดเส้นทางสัญจรอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่นที่บ้านเทิน ตำบลบัวน้อย วิธีที่เจ้าหน้าที่จะเข้าส่งเสบียงอาหาเข้าไปช่วยเหลือได้ก็คือ ส่งโดยเฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่คอยรับเสียงอาหาร จากภาคเอกชนต่างๆ และมูลนิธิเช่นมูลนิธิเพชรเกษม ซึ่งปรุงทั้งอาหารกล่องและอาหารแห้ง ไปให้ชาวบ้าน



ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลการสัญจรโดยเรือต้องใช้เวลานาน เจ้าหน้าที่ก็นำถุงเสบียงที่ห่อมิดชิด แล้วหย่อนลงน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่กระโดดน้ำตามลงไปด้วยเพื่อนรวบรวม ลำเลียงไปศูนย์รวมหมู่บ้าน เพื่อปรุงแจกจ่ายกันในครัวเรือน เหตุผลสำคัญที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์หย่อนเสบียงอาหารเพราะถนนเชื่อมต่อแต่ละหมู่บ้านถูกตัด ต้องใช้เรือทางเดียว และหมู่บ้านก็อยู่ห่างกันการใช้เรือแจกจ่ายก็ได้วันละไม่กี่หมู่บ้าน



ผมนั่งเรือไปกับมูลนิธิเพชรเกษมและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าไปแต่ละหมู่บ้าน เพื่อสำรวจความต้องการและแจกจ่ายอาหารปรุงสำเร็จ พบว่าบริเวณนี้ไม่ต่างจากทะเลสาป ทุ่งข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 รวมหลายหมื่นไร่ของคนที่นี่ จมน้ำเสียหาย ที่นี่ทำนาปีได้ครั้งเดียว ไม่มีนาปรัง เพราะฉนั้นข้าวที่เสียหายก็ถือว่าสูญสิ้นไป



ผมไปถึงบ้านหนองแสง ตำบลบัวน้อย เพื่อไปดูเจ้าหน้าที่นำเสียบอาหารไปแจกจ่าย พบว่าส่วนใหญ่อพยพออกไปข้างนอก แต่ก็ฒีบางหลังที่ยังอยู่ อย่างครอบครัวนี้ เป็นจุดที่สูงที่สุดในหมู่บ้าน แต่ก็ถือว่าท่วมหนักกว่า 1 เมตร ครอบครัวนี้ไม่ย้ายออกไปครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะห่วงทรัพย์สิน



ผมกับนายประกอบ พันธุ์วิไล อายุ 81 ปี นายประกอบยืนยันว่า สำหรับหมู่บ้านนี้ นี่คือน้ำท่วมที่หนักกว่า ปี 2521 ไปแล้ว



จะเห็นว่าในแต่ละหมู่บ้านที่เรานั่งเรือผ่าน อยู่ห่างกันมาก และน้ำก็ไหลเชี่ยว เรือชาวบ้านทั่วไป เข้าไปแจกจ่ายกันเองได้ยาก ก็ต้องอาศัยเรือเร็วของมูลนิธิ และเฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยลำเลียง ขนส่งเสบียงแบบนี้ละครับ



ในตำบลบัวน้อย มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนัก 11 หมู่บ้าน โดยจุดที่ตั้งบัญชาการช่วยเหลือ คือบ้านพันลำ ซึ่งเป็นจุดที่มีจะมีที่ดอน หรือที่สูงให้เป็นเหมือนท่าเรือ เพื่อกระจายการเสบียงไปได้ และที่สำคัญครับ น้ำทั้งหมดที่เราเห็น ก็จะหลากลงแม่น้ำมูล ไหลบ่ามาที่อุบลราชธานี ปลายทางที่โขงเจียมอยู่ดี