แจ้งจับ-ถอนวีซ่า 2 นักข่าวต่างประเทศ บุกรุกที่เกิดเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู 'CNN' แจง จนท.สธ.อนุญาต

สำนักข่าว CNN ออกมาชี้แจง กรณีที่มีผู้สื่อข่าวหญิงเข้าไปรายงานข่าวเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดเกิดโศกนาฏกรรมกราดยิง


หลังจากที่ทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สำนักข่าว CNN ออกมาชี้แจง กรณีที่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อถ่ายทำและรายงานข่าวเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู


เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.65) บัญชีทวิตเตอร์ ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชันแนล พีอาร์ (CNN International PR) ได้ทวิตข้อความชี้แจงว่า "ในขณะที่ ทีมงานของ CNN กำลังบันทึกภาพศูนย์ดูแลเด็กเล็กที่จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมกับสื่ออื่น ๆ นั้น พบว่าแถบกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถูกนำออกไปแล้ว ขณะที่กำลังถ่ายทำอยู่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 คนที่เดินออกมาจากอาคาร ได้พูดคุยกับทีมงาน และบอกพวกเขาว่า สามารถเข้าไปบันทึกภาพด้านในได้ ซึ่งทีมงานได้บันทึกภาพภายในศูนย์ เป็นเวลาประมาณ 15 นาที แต่พอกลับออกมา พบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำแถบกั้นมาติดตั้งไว้เหมือนเดิม ทำให้ทีมงานต้องปีนออกมาจากศูนย์เด็กเล็ก"


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้สื่อข่าวที่เข้าไปรายงานข่าวเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู คือ แอนนา คอเรน (Anna Coren) และรายงานของเธอได้ออกอากาศผ่านทางรายการ คอนเน็ค เดอะ เวิล์ด วิธ เบ็กกี้ แอนเดอร์สัน (CONNECT THE WORLD with Becky Anderson) ซึ่งเป็นรายการข่าวที่มีความยาว 2 ชั่วโมง ออกอากาศจากสตูดิโอ CNN ประจำตะวันออกกลาง ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


นอกจากนี้ รายงานตัวนี้ยังเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักข่าว CNN ซึ่งบนหน้าเว็บ มีข้อความระบุว่า ทีมงานได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปถ่ายทำในจุดเกิดเหตุอาชญากรรมแล้ว และในภาพของรายงานดังกล่าวมีการเผยแพร่ภาพคราบเลือดที่ยังไม่ถูกล้างออก รวมถึงข้าวของต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ และในรายงาน แอนเดอร์สันยังบอกด้วยว่า ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีศพของเด็ก ๆ และคุณครูกระจายอยู่ตามห้องเรียน ซึ่งจะเห็นว่ามีคราบเลือดที่กระจายอยู่บนพื้น และว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีบาดแผลจากการถูกฟันเข้าที่ศีรษะ


ในเวลาต่อมา เวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค.65 ที่บริเวณหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุอดีตตำรวจฆาตกรรมหมู่ 36 ศพ บรรยากาศยังคงมีประชาชนนำของเซ่นไหว้และดอกไม้ พวงหรีด มาวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกัน นายดนัยโชค บุญโสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสื่อต่างชาติเข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ ถ่ายภาพรายงานข่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์


นายดนัยโชค บุญโสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องจากทางสื่อวันนี้ ยังไม่ได้สอบถามรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นเพียงในทางสื่อเท่านั้น ในทางป้องกันนั้นได้สั่งการไปยังฝ่ายป้องกันและประสานตำรวจ ห้ามเข้าใกล้จุดที่เกิดเหตุนี้เด็ดขาด เพราะกระบวนการต่าง ๆ ยังไม่เสร็จสิ้น และในส่วนของการดำเนินการเรื่องอาคารหลังนี้ก็ยังไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบในหลายส่วน ซึ่งมีรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ในเรื่องที่บอกจะไปทุบทำลายหรืออะไรนั้น ก็คงไม่ใช่เพราะงบประมาณการสร้างก็กว่า 3 ล้านบาท


"ในเรื่องนี้ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสถานที่แห่งนี้ ทางผู้หลักผู้ใหญ่ก็ทราบเรื่องแล้ว ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับทางผู้หลักผู้ใหญ่จะพิจารณาตามความเหมาะสม ตนเองก็พร้อมทำตามที่ผู้หลักผู้ใหญ่บอก แต่ขอให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และอยากจะฝากถึงการทำข่าวต่าง ๆ อยากจะให้เกียรติทางเราด้วย ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ทำ พอออกสื่อไปมันกลายเป็นคนละเรื่องกัน มันเหมือนกับการจะเอาไปขายข่าวกันหรือไม่ มันเกิดความเสียหายในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตอนนี้เราทุกคนยังอยู่ในความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องเข้ามาอีก ทำให้เราต้อง ทำไม ทำเพื่ออะไร ผมก็เหนื่อยนะ ผมเหนื่อยพอแล้ว แทนที่คุณจะมาช่วยเรา เมื่อวานผมน้ำตาร่วงทั้งวัน อาบน้ำศพทั้ง 3 วัด ผมเดินทางไปทุกวัดเพื่อให้กำลังใจกับญาติผู้สูญเสียทุกคน ตอนนี้ทุกคนเสียใจมากพออยู่แล้ว ก็ขอในเรื่องนี้ด้วย"


ในช่วงบ่ายนี้ จะมีการเชิญดวงวิญญาณหมู่ตามประเพณีความชื่อ เพื่อนำดวงวิญญาญกลับบ้านตามความเชื่อ หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ตนเองก็จะเดินทางเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ทันที โดยได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เดินทางเข้าไปแจ้งความด้วยตัวเอง ในส่วนกระบวนการนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับทางผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคนก่อน


ล่าสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนวีซ่านักข่าวต่างประเทศ 2 คน ทันที โดยระบุว่า พบเห็นที่ไหนสามารถจับกุม ผลักดันออกนอกประเทศทันที

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/kdp4FIAnCzM