หนุ่มสารภาพ ทำร้ายแมวที่เพิ่งรับเลี้ยงจนตาย อ้างเครียดงาน-ปัญหาครอบครัว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ในกลุ่มรับเลี้ยงแมว ได้โพสต์ภาพแชทข้อความ ที่มีเจ้าของแมวรายหนึ่ง พูดคุยกับชายที่ชื่อ โอ๊ต (นามสมมติ) ซึ่งติดต่อขอรับแมวไปเลี้ยงได้เพียงไม่กี่วัน แมวก็ตาย นายโอ๊ต ได้ส่งรูปแมว 2 ตัว กลับมาหาเจ้าของ เป็นภาพแมว 2 ตัว นอนอยู่ในกระบะทราย พร้อมข้อความ ระบุว่า “พี่ครับ น้องเสียแล้วครับพี่ น้องน่าจะเล่นกัน แล้วเผลอกินทรายแมวเข้าไป”


ซึ่งผู้ที่นำภาพแชทดังกล่าวมาโพสต์ในกลุ่ม มีการแสดงความคิดเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่แมวจะกินทราย จนทำให้ตาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ขอรับแมวไปเลี้ยงแค่ 1 วันแล้วแมวตาย ซ้ำหนุ่มคนดังกล่าวได้มีการไปคอมเมนท์แทบทุกโพสต์ที่ให้แมว ว่าน้องได้บ้านหรือยัง


จากนั้น มีโพสต์ต่อว่า จากเคสนี้ ทีแรกตาย 2 จนมีมาเรื่อยๆ จากการรวบรวมข้อมูลจากคนที่เคยให้แมวกับนายโอ๊ตไปเลี้ยง โดยมีการไล่เรียงว่า เคยรับแมววันที่ 16 ก.ย. ต่อมาวันที่ 17 ก.ย. บอกแมวตาย 2 ตัว เพราะกินทราย


นอกจากนี้ยังมีรับแมววันที่ 3 ก.ย. ต่อมาวันที่ 4 ก.ย. บอก แมวดำตาย 1 ตัว นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายตัว ที่ผู้โพสต์อ้างว่า นายโอ๊ต ไม่อัปเดตว่า หลังรับเลี้ยงไปแล้วเป็นยังไง บางตัวก็แจ้งว่าเอาไปให้คนอื่นไป


โดยผู้โพสต์ระบุว่า ตอนนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานว่ารับแมวไปกี่ตัว ตายกี่ตัว และไม่อัปเดตอีกกี่ตัว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแมว


ซึ่งชายที่ถูกกล่าวหา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมยอมรับนะครับว่าผมประมาท ดูแลน้องไม่ดีเลยทำให้น้องตาย แต่ผมขอปฏิเสธนะครับที่มากล่าวหาว่าผมเป็นคนฆ่าน้อง มันคืออุบัติเหตุ มีใครบ้างครับที่อยากจะให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ ผมก็รักแมวเหมือนกัน ณ ตอนนี้คนรอบข้างผมเดือดร้อนไปหมด สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ผมทำได้แค่ขอโทษสังคม ผมพร้อมที่จะน้อมรับความผิด และพร้อมที่จะโดนด่า ผมทำก็ขอให้มาว่าผมคนเดียว พ่อ แม่ และแฟนผมไม่ได้เกี่ยว เพราะเค้าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ผมผิดก็ขอให้ผมเป็นจำเลยสังคมแค่คนเดียว หลังจากนี้ผมก็ขอทำงานของผมไป และถ้าหลังจากนี้ใครมาข่มขู่ หรือเปิดเผยข้อมูล ผมขอดำเนินคดีการตามกฎหมาย”


ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณเล็ก เจ้าของแมวสลิดสีเทา 2 ตัว เป็นเพศผู้ และเพศเมีย อายุ 2 เดือน นายโอ๊ต ติดต่อมาขอเอาไปเลี้ยง โดยถามว่า แมวได้บ้านหรือยัง และตอนนี้แมวสามารถกิน หรือเข้ากระบะทรายเป็นหรือยัง


ตอนนั้นได้พูดคุยกับนายโอ๊ตอยู่หลายวัน จนมั่นใจว่า คนนี้รักแมวจริงๆ และพร้อมเลี้ยง จึงให้เพื่อนช่วยไปส่งแมวให้ที่บ้านนายโอ๊ต แถวอำเภอสามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ช่วง 4 โมงเย็น และช่วยสกรีนให้อีกทีก่อนให้แมว


แต่ต่อมาวันรุ่งขึ้น ตอน 8 โมงเช้า นายโอ๊ตส่งข้อความมาบอกว่า แมว 1 ตัวตาย และเห็นว่ามีทรายจากกระบะทรายอยู่ที่ปาก ตอนนั้นตนแปลกใจ และคิดสงสัยว่าแมวน่าจะ overdose จากยาถ่ายพยาธิ นายโอ๊ตบอกว่า แมวอีกตัวที่เหลือดูไม่ค่อยแข็งแรงเลย ก่อนที่ตอน 11 โมง วันเดียวกัน นายโอ๊ตจะวิดีโอคอลมาหา และบอกว่าแมวอีกตัว ก็ตายตาม และร้องไห้ ตอนนั้นคุณเล็กก็ร้องไห้ตาม บอกว่ารู้สึกผิด ที่ส่งน้องไปตาย ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้สึกเอะใจ


ขณะที่เพื่อน ซึ่งเป็นคนที่เอาแมวไปส่งที่บ้านของนายโอ๊ต เล่าว่า เดิมโอ๊ตมีแมวอยู่ แล้ว 2 ตัว เป็นแมวอายุประมาณ 2 เดือน เช่นกัน ตนเองจึงประเมินดูว่านายโอ๊ตน่าจะเลี้ยงได้ ประกอบกับนายโอ๊ตคุยกับเจ้าของแมวมานานหลายวัน และปรึกษาตลอด จึงมั่นใจ และส่งมอบแมวอีก 2 ตัวให้


แต่วันรุ่งขึ้น ก็มาทราบว่า แมวที่เอาไปตายทั้ง 2 ตัว และหลังจากนั้น ยังไปติดต่อขอรับเลี้ยงแมวมาอีก 2 ตัว ก็ยังแอบแปลกใจ


กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา แฟนของนายโอ๊ต ได้พยายามติดต่อมาหา และขอให้ช่วยมารับแมวที่เหลือออกจากบ้านไปหน่อย โดยเฉพาะแมวเพศเมีย 3 สี ที่อาการไม่ค่อยดี โดยอ้างว่า สาเหตุที่ให้มารับ เพราะนายโอ๊ตทำร้ายแมว โดยเฉพาะเวลาที่เหนื่อยๆ หรือ เครียดจากการทำงาน บางทีแมวน้องเสียงดัง หรือเวลาแมวไม่ขี้ ไม่เยี่ยว ก็จะทำร้าย


ซึ่งตอนที่ตนไปถึง แมว 3 สีที่ตนไปช่วย มีอาการหัวบวม จึงรีบนำไปพบสัตวแพทย์รักษาทันที


ทางผู้เสียหาย เห็นว่าหลังจากที่ตนไปช่วย ก็ไม่ได้ไปโพสต์อะไร จนกระทั่ง เห็นว่าในกลุ่มที่รับเลี้ยงแมว รับหาบ้านให้แมว มีคนที่มาโพสต์ว่าเคยให้แมวกับนายโอ๊ตไป และตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเอาไปไม่กี่วัน แมวก็ตาย พวกตนจึงประสานไปทางมูลนิธิเส้นด้าย เพื่อให้ช่วยประสานความช่วยเหลือ


ทีมข่าว พร้อมกับเจ้าของแมว และทีมอาสาสมัครเส้นด้าย จึงเดินทางไปที่ห้องเช่าของนายโอ๊ต อายุ 19 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายแมว ในอำเภอสามพราน โดยเจ้าของแมวขอให้นายโอ๊ต พาไปตรงจุดที่เอาแมว 2 ตัวไปฝัง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นคันนาข้างทาง ขุดพบเหลือแต่เศษซากกระดูกของแมวบางส่วน


จากนั้นทางมูลนิธิเส้นด้าย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวอชด็อก ให้มาตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนสอบถามนายโอ๊ต ว่าเอาแมวมาฝังตรงจุดใดบ้าง นายโอ๊ตรับว่า เอาแมวมาฝังที่นี่ 5 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวมีเจ้าของรับกลับไปทำพิธี


นายโอ๊ต ยอมรับกับทีมข่าวว่า ตนเองไปขอรับเลี้ยงแมวมานานหลายเดือนแล้ว แต่จำไม่ได้ว่ารับมาดูแลกี่ตัว สาเหตุที่รับเลี้ยง เป็นเพราะอยากเลี้ยง และชอบแมว แต่เมื่อเอามาเลี้ยงได้ไม่กี่วันก็ตาย ซึ่งมีประมาณ 7 ตัว จึงเอามาฝังที่ริมคันนา และ ในป่ารวม 5 ตัว


ส่วนใหญ่สาเหตุที่ตาย นายโอ๊ตอ้างว่าแมวอ่อนแรงลงเอง และตาย ซึ่งบางตัวก็เข้าใจว่าเป็นเพราะยาถ่ายพยาธิเกินขนาด


ในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ก็พยายามซักถามหนักขึ้น เกี่ยวกับการทำร้ายแมว จนในที่สุด เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีการตี บีบคอ และบีบท้องของแมวบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แมวตาย และก็ยอมรับว่าสาเหตุที่ลงมือ บางครั้งเป็นเพราะเครียดจากงาน และจากปัญหาครอบครัว เลยลงมือกับแมว


จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อก จึงสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว พานายโอ๊ต ไปพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริง ที่ สภ.โพธิ์แก้วต่อไป ซึ่งเบื้องต้น ถ้าสอบสวนแล้วพบว่ากระทำผิดจริง ก็อาจจะเข้าข่ายความผิดการทารุณกรรมสัตว์