สังคม

คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านพ่อค้ารับซื้อน้ำยาง กระสุนเจาะพรุนทั้งรถ-บ้าน ทะลุหน้าต่างหวิดถูกหลานชายวัย 9 ขวบ

โดย paranee_s

12 ก.ย. 2565

467 views

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้าน ม.5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล หลังจากทราบข่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 9 ก.ย. 65 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดบุกยิงบ้านและรถ จนได้รับความเสียหาย โชคดีคนในบ้านปลอดภัย แต่ก็อยู่กันอย่างอกสั่นขวัญหาย


เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนายโกมล อาชีพพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสด สภาพบ้านปูนชั้นเดียว ข้างบ้านเปิดเป็นจุดรับซื้อน้ำยางสด บริเวณบ้านและรถกระบะวีโก้ที่จอดอยู่หน้าบ้าน พบร่องรอยกระสุนที่ถูกคนร้ายกราดยิงไม่ต่ำกว่า 15 นัด โดยรถกระบะนั้นกระสุนถูกกระจกข้างทะลุไปกระชังหน้ารถ แก้มหน้ารถและบริเวณอื่นรวม 9 จุด ส่วนตัวบ้านนั้นกระสุนเจาะหลังคากระเบื้องทะลุ รางรองน้ำฝน ฝาผนังหน้าบ้าน รวมถึงกระจกหน้าต่าง 5 จุดที่ทะลุเข้าห้องหลานชายมีเด็กวัย 9 ขวบนอนอยู่ 2 คน


นายโกมล เจ้าของบ้าน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 22.45 น. ตอนนั้นมีคนอยู่ในบ้าน 5 คน ตนเอง ภรรยา ลูกชาย 1 คนและหลานชายอีก2คน รวมเป็น 5 คน โดยทุกคนเข้านอนแล้วเหลือตนเองคนเดียวที่นั่งดูทีวี


ขณะที่ตนเองลุกขึ้นเพื่อไปปิดไฟเข้านอน ก็เสียงปืนก็ดังขึ้น โดยยิงรัวรวดเดียวหลายนัด และได้ยินเสียงกระสุนปะทะฝาบ้านและรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านดังสนั่นรวดเดียวจบ


เมื่อสิ้นเสียงปืน ตนเองตั้งสติได้ ตัดสินใจวิ่งออกทางประตูด้านหลังบ้าน แล้วพยายามแอบอ้อมขึ้นมาบนริมถนนเพื่อต้องการจะดูว่าคนร้ายยิงมาจากไหน แต่ก็ไม่ทันเห็นคนร้ายหนีไปเสียก่อน จึงได้กลับเข้าไปในบ้าน เพื่อสำรวจว่าในบ้านมีใครได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่ โดยหลานชาย 2 คนวิ่งออกมาด้วยความตกใจตัวสั่นเทา ตนกลัวมากว่ากระสุนจะไปถูกหลาน เพราะจุดที่ยิงตรงกับห้องหลานชายพอดี จึงได้โทร 191 และผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยเหลือ


เมื่อชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านมาถึง ตนจึงเปิดประตูออกมาดูร่องรอยความเสียหายแล้วรอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยของกระสุนหลายจุด


โดยเช้าของวันที่ 10 ก.ย. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยและหัวกระสุนตกอยู่ในพื้นที่หลายหัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่เมื่อตรวจบนถนนและริมถนนที่คาดว่าเป็นจุดซุ่มยิงของคนร้ายกลับไม่เจอปลอกกระสุน จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะเก็บจนหมดเพื่อทำลายหลักฐาน จึงยังไม่สามารถยืนยันแน่ชัดว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนอะไร


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ตนและภรรยาย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช อาศัยอยู่ที่นี่กว่า 30 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทำแต่งาน ชาวบ้านแถวนี้รู้ดี


ตอนนี้ทุกคนในบ้านรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลานชายทั้ง 2 ต้องช่วยกันย้ายตู้เสื้อผ้าไปปิดหน้าต่างในห้องที่หลานนอน และให้หลานไปนอนในห้องเดียวกันเพื่อความปลอดภัย


ด้านนางนฤมล ผู้เป็นภรรยา กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ตนนั่งอยู่หน้าบ้าน มีผู้ชายสองคนขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้ารัดกุมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าทั้งสองคน หนึ่งคนเดินลงจากรถมาแล้วบอกว่า ลูกเขยของตนติดหนี้เขาอยู่จำนวนหนึ่ง อีก 2 วันจะมาเอาให้เตรียมเงินไว้ ตนจึงบอกไปว่าไม่เกี่ยวกับตน ให้ไปเอาที่ลูกเขย เพราะลูกเขยคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกว่า 3 ปีแล้ว


ผู้ชายคนดังกล่าวไม่ยอมแล้วขู่ว่า หากไม่มีเงินให้ คนข้าง ๆ จะเดือดร้อนกันหมดแน่ จึงมั่นใจว่าต้องเกี่ยวพันกับลูกเขยของตนแน่นอน เบื้องต้นได้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว และวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง


ด้านนายเกรียงไกร ศรีสงคราม ผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันกับผู้สื่อข่าว มั่นใจว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากสองสามีภรรยาคู่นี้อย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ตนเห็น 2 คนนี้เป็นคนดี ช่วยเหลือคนอื่นบ่อยครั้ง ชาวบ้านก็รักใคร่


ส่วนเกิดจากอะไรนั้นตนเองไม่มั่นใจ ปล่อยให้เป็นไปตามการสืบสวนและสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทราบว่าพอมีเบาะแสแล้วและเชื่อว่าจะสามารถจับคนร้ายได้อย่างไม่ช้า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความตกใจกับคนในหมู่บ้าน เพราะไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ บางคนกลัวถึงขั้นไม่กล้าออกไปกรีดยาง หลังจากนี้ก็จะจัดชุดรักษาความปลอดภัยคอยลาดตระเวนดูเพื่อให้ชาวบ้านได้อุ่นใจไปสักระยะหนึ่ง

คุณอาจสนใจ

Related News