หมี่น้ำแกงอาหารพื้นถิ่นยืนหนึ่ง ขายมานานกว่า 40 ปี

อาหารพื้นถิ่นที่ขายยืนหนึ่งมานาน 40 ปี และมีเหลืออยู่เพียงเจ้าเดียวเท่านั้นใน จ.สตูล คือหมี่น้ำแกงของนางฉ๊ะ อายุ 66 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล โดยหมี่น้ำแกงเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวบ้านเกตรีที่กินกันมานานแล้ว โดยนางฉ๊ะถือเป็นรุ่นที่ 2 ที่สืบทอดต่อมาจากแม่

นางฉ๊ะ เล่าให้ฟังว่าตนสืบทอดการทำหมี่น้ำแกงมาจากรุ่นแม่ โดยเริ่มขายตั้งแต่คลอดลูกชาย โดยขายติดกับฝายชลประทานหน้า ร.ร.บ้านเกตรี ทุกวันนี้ก็ขายมาแล้ว 40 ปี โดยหมี่น้ำแกงนั้นจะกินคู่กับน้ำแกงกะทิเหมือนน้ำแกงขนมจีน ส่วนผักก็จะเป็นแครอท กระหล่ำปี หอมแดง หั่นฝอย และถั่วงอก กินก็เหมือนกับขนมจีนทุกอย่างเพียงแต่ใช้เส้นหมี่เท่านั้น เพราะคนต.เกตรีไม่นิยมกินขนมจีน จึงเป็นที่มาของหมี่น้ำแกงนั้นเอง ซึ่งหมี่ที่ใช้จะเป็นหมี่ลวก ในช่วง 2-3 ปีหลังตนเพิ่มเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำแกงขึ้นมาอีก 1 อย่าง โดยใช้เส้นเล็กผัดเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับเด็กๆ โดยก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่ผัดจะเน้นความเหนียวนุ่ม

เมื่อกินคู่กับน้ำแกงกะทิก็จะทำให้เส้นนุ่มกำลังดี ซึ่งเด็กๆ จะชอบแบบผัดมากกว่าแบบลวก ในแต่ละวันตนจะขายตั้งแต่ 05.00-09.00 น.ขายทุกวันเว้นวันหยุดราชการ ลูกค้าจะเป็นเด็กนักเรียน และชาวบ้านคนกรีดยาง ช่วงเช้าจะเป็นของเด็กนักเรียน แม่บ้าน ชาวบ้าน ส่วนสายๆก็จะเป็นกลุ่มคนตัดยางที่กรีดยางเสร็จแล้ว ราคาเด็กจานละ 5-10 บาทส่วนผู้ใหญ่จานละ10-20บาท สามารถใส่คู่กันได้ทั้งแบบลวกและผัด แต่ละวันจะลวกหมี่วันละ 3 ก.ก.และก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กวันละ 4 กก. นอกจากหมี่และก๋วยเตี๋ยวน้ำแกงแล้วจะขายลูกชิ้นทอด ไก่เสียบไม้ชุบแป้งทอด

โดยขายชิ้นละ 5 บาท ไข่ทอดไม้ละ 2 บาท เด็กนักเรียนนิยมกินหมี่น้ำแกงหรือก๋วยเตี๋ยวน้ำแกงคู่กับไก่เสียบไม้ชุบแป้งทอด อิ่มละ 10 บาทก่อนไปร.ร. ซึ่งเด็กๆ บอกว่ากินตั้งแต่เล็กๆและกินได้ทุกวันอร่อยและไม่มีเบื่อ หากเป็นแม่บ้านก็จะซื้อกลับบ้านขายถุงละ 10 บาท ร้านของนางฉ๊ะถือเป็นจุดฝากท้องทุกเช้าของชาวบ้าน ต.เกตรี เลยก็ว่าได้