พ่อแม่ใจสลาย! หมอวิดีโอลคอลให้พยาบาลทำคลอดลูก สำลักน้ำคร่ำดับ ร้อง รพ.รับผิดชอบ

แม่ร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ทำคลอดลูกตนมีอาการสำลักน้ำคร่ำ ต้องปั๊มหัวใจช่วยและไม่มีอาการตอบสนอง จนต้องยุติการรักษาเพราะเสี่ยงต่อการพิการติดเตียงตลอดชีวิต

เพจสายไหมต้องรอดแชร์ภาพเด็กทารกเสียชีวิต ระบุข้อความว่า #โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี แม่ใจสลาย ทารกน้อยสำลักน้ำคร่ำเสียชีวิต หลังไปคลอดลูกที่ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมอใช้วิธีการวิดีโอคอล มาอธิบายวิธีการทำคลอด ให้พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลช่วยกันทำคลอดอย่างทุลักทุเล ใช้เวลาทำคลอดนานกว่า 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 12.00 น. ถึง 15.30 น. แม่พยายามร้องขอให้ผ่าคลอดเนื่องจากแบ่งจนสุดแรงแล้วแต่หัวของทารกก็ยังไม่ออกมา สุดท้ายผ่านไป 3 ชั่วโมง จนแม่หายใจรวยริน คุณหมอที่วิดีโอคอลตัดสินใจให้พยาบาลใช้เครื่องดูดทารกออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ทันการณ์ ทารกสำลักน้ำคร่ำ จนนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลปทุมธานี

ผ่านไป 2 สัปดาห์ โรงพยาบาล แจ้งว่าสุดยื้อชีวิต ต้องปล่อยลูกน้อยจากไปพ่อแม่ประสาน #เพจสายไหมต้องรอด ส่งรถรับศพทารกน้อยไปประกอบพิธีทางศาสนาทั้งน้ำตา #แอดขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ #เรื่องนี้ใครควรรับผิดชอบคะ กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข

แม่อายุ 25 ปี ที่ต้องสูญเสียลูกชายคนแรกหลังคลอด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 เวลาประมาณ 9.00 น. เจ็บท้องเหมือนจะคลอดลูกเลยไปโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จังหวัดปทุม ซึ่งพอเจอหมอ ก็บอกว่าปากมดลูกเปิด 1 เซนติเมตร และก็ให้กลับบ้าน

พอตกกลางคืนปวดท้องอีก จึงไปหาหมออีกครั้ง และหมอก็ให้นอนที่โรงพยาบาล จนปากมดลูกเปิด 2 เซนติเมตรและมีความดันสูง ตอนเช้าหมอจึงให้ยาเร่งคลอด ตอนนั้นรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว เลยจะขอให้หมอช่วยส่งไปผ่าตัดฉุกเฉินที่โรงพยาบาลอื่นได้หรือไม่

หมอตอบกลับมาว่า ถ้าจะให้ส่งตัวไปก็ต้องเซ็นปฏิเสธการรักษาที่โรงพยาบาลนี้ก่อน และผู้ป่วยต้องไปเอง ตอนนั้นไม่มีเงิน พอถึงช่วงเที่ยงวันที่ 20 ส.ค. 65 พยาบาลจึงพาเข้าห้องคลอด ตอนนั้นพยายามเบ่งคลอดแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่คลอดออกมา จนหมอประสานจะส่งผ่าคลอดที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี แต่ตอนนั้นหมอสูตินารีเวชที่โรงพยาบาลดังกล่าวออกเวรแล้ว

ต่อมา หมอทั้ง 2 โรงพยาบาลก็ได้วิดีโอคอลคุยกันเพื่อที่จะทำคลอด โดยหมอก็ได้ใช้อุปกรณ์ช่วยดึงลูกออกมา ตอนนั้นรู้สึกตัวดี ได้ยินเสียงพยาบาล พยาบาลบอกด้วยว่า ลูกเราไม่ดีแล้วนะ เพราะเราไม่เบ่ง จนเวลาประมาณ 15.40 น. ลูกชายคลอดออกมา มีอาการสำลักน้ำคร่ำ และเหมือนจะไม่หายใจ หมอต้องช่วยปั๊มหัวใจขึ้นมา

ต่อมา หมอได้ส่งลูกชายไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี เพื่อทำสแกนสมองและปรับร่างกายเป็นเวลา 3วัน และก็ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลเดิมที่ทำคลอดต่อ ซึ่งอาการลูกชายตอนนั้น คือ ไม่มีอาการตอบสนอง ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกให้ทำใจ เพราะถูกรักษาอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนในที่สุดต้องหยุด ยุติการรักษา เพราะลูกมีโอกาสพิการติดเตียงและมีการเจาะท้อง เจาะคอ เพื่อให้สารอาหาร ไม่อยากเห็นลูกทรมานจำใจต้องปล่อยลูกไป

แม่ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนเป็นแม่ใจสลาย อุ้มท้องมา 9 เดือน นี่เป็นลูกคนแรก แต่ต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ตนต้องการเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบด้วยการขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะระยะเวลาที่อยู่ห้องคลอด มีแต่พยาบาลช่วยดูแล ไม่เห็นหมอเลย จนพบว่าภาวะวิกฤตแล้วหมอจึงจะเข้ามา

เมื่อวานนี้ พ่อและแม่ ได้ไปรับศพลูกชายออกมาจากสถานที่เก็บศพ แล้วก็นำไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดเกศประภา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อขอคำชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ