ดับสยองที่ซอกตึก! โจรย่องเบาปีนโรงแรมหวังลักทรัพย์ พลาดท่าเตะลวดไฟฟ้า ถูกไฟช็อตดับคาที่

ตีนแมว อาศัยช่วงฝนตกปีนโรงแรมหวังลักทรัพย์ พลาดท่าเตะลวดไฟฟ้าป้องกันการโจรกรรมดูดเสียชีวิต ด้านตำรวจ เรียกสอบปากคำ ไม่ยืนยันเป็นขโมยหรือไม่ ด้าน กทม.สั่งตรวจสอบ ปมติดรั้วไฟฟ้าได้หรือไม่

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางกรุง เมื่อพบร่างผู้เสียชีวิต ห้อยติดอยู่กับท่อระบายควัน บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท ซอย 5 แขวงวัฒนา เขตวัฒนา ร.ต.ท.จตุรวิศศ์ ไตรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน)สน.ลุมพินี พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 8 ชั้น โดยพบศพติดอยู่ที่ชั้น 2 ระหว่างซอกตึกและท่อระบายควัน ความสูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร

ที่ข้อเท้าขวามีรอยไหม้และมีลวดไฟฟ้าป้องกันการโจรกรรมพาดติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอชุดปฏิบัติการในพื้นที่สูงมาช่วยดำเนินการนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาตรวจสอบ โดยอาสาร่วมกตัญญู ต้องใช้อุปกรณ์ โรยตัว นำร่างผู้เสียชีวิต ค่อยๆ ลงมาจากอาคาร

พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตแขนยาว สีน้ำตาล คลุมทับเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีดำ กระเป๋าเป้สะพาย สีเทา และกระเป๋าธนบัตร ภายในมีเงินสด ประมาณ 2,600 บาท และบัตรประชาชน ระบุชื่อ นายโอภาส อายุ 34 ปี  เป็นชาว จ.ระยอง ที่กลางหน้าอกมีรอยสัก และที่ข้อเท้าขวา มีรอยสัก ระบุวันที่ 21 มิ.ย.47

จากการตรวจสอบกับทางโรงแรม แจ้งว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่แขก หรือนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักอาศัยในโรงแรมและไม่มีใครรู้จัก โดยปกติทางโรงแรมมีการติดตั้งรั้วไฟฟ้า จะเปิดกระแสไฟเพื่อป้องกันการโจรกรรม ช่วงประมาณ 22.00 น.ถึง 05.00 น.เนื่องจากที่ผ่านมา เคยมีลูกค้าที่เข้าพักได้มาแจ้งว่าทรัพย์สินหาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม วิ่งไล่ตามจับคนร้ายที่แอบปีนเข้ามาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในห้องพักชั้นที่ 2 แต่จับตัวไม่ได้

เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นคนร้ายที่แอบปีนเข้ามาเพื่อลักทรัพย์นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักภายในโรงแรม แต่พลาดเดินเตะลวดไฟฟ้าป้องกันการโจรกรรมจึงถูกกระแสไฟดูดเสียชีวิต ก่อนมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวช รพ.จุฬาฯ

ทางด้าน พันตำรวจเอก นิมิต นูโพนทอง ผู้กำกับ สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวนั้น จากการให้ข้อมูลของทางโรงแรมคาดว่าผู้เสียชีวิตอาจจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินในโรงแรม แต่จาการตรวจสอบไม่พบหลักฐานการลักทรัพย์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการขโมยของ ซึ่งประเด็นนี้ ต้องรอตรวจสอบและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตด้วย

ส่วนประเด็นการติดตั้งรั้วไฟฟ้า ของโรงแรมในข้อกฎหมายนั้น ตำรวจต้องสอบถามสำนักงานเขตวัฒนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สามารถติดตั้งรั้วไฟฟ้าแบบนี้ได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ในพื้นที่ใจกลาง กทม.เพิ่งเคยพบว่ามีการติดตั้งรั้วไฟฟ้าแบบนี้

ขณะที่ สำนักโยธา กทม ให้ข้อมูลว่า กรณีการติดตั้งรั้วไฟฟ้าเพื่อป้องกันการโจรกรรมนั้น ไม่เคยมีสถานประกอบการ โรงแรมหรือบ้านพักมาขอติดตั้ง และไม่สามารถติดตั้งได้ ซึ่งกรณีนี้ ทางสำนักงานเขตวัฒนา ต้องไปตรวจสอบว่า โรงแรมแห่งนี้ เคยขออนุญาตสำนักงานเขตหรือไม่ และมีเหตุผลใดในการติดตั้ง ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งรอข้อมูลจากตำรวจนำมาประกอบการพิจารณาข้อกฎหมาย หากพบว่าลักลอบติดตั้งทางตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย 

ขณะที่นาย ปรเมศร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หากเจ้าของทรัพย์สินหรือเจ้าของสถานที่ติดตั้งรั้วไฟฟ้า เพื่อป้องกันทรัพย์สินสามารถทำได้ แต่ถ้าติดตั้งอยู่ในจุดที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ หรืออยู่ในจุดที่สูง ก็ถือว่าไม่ต้องรับโทษ กรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากรั้วไฟฟ้าดังกล่าว แต่หากว่าอยู่ในจุดที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ต้องมีป้ายแจ้งเตือนคอยกำกับเอาไว้ ซึ่งเคยมี ฎีกาที่พูดถึงคดีแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2510 จนถึงล่าสุดเมื่อปี 2553

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hIIIgH5cli0