ซึ้งน้ำใจ! ชื่นชมชายพิการใส่ขาเทียม ตระเวนตัดผมผู้ป่วย-คนยากไร้ฟรี

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง นายประสพ เชี่ยวน้อย อายุ 47 ปี กับนางสาวดวงใจ ชูศรี อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของน้องฟลุ๊ค อายุ 18 ปี กำลังช่วยกันประคองน้องฟลุ๊ค เพื่อให้นายสุวิจักขณ์ นามสีฐาน หรือ โจ อายุ 43 ปี ช่างตัดผมจิตอาสาชาวต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ตัดผมให้กับน้องฟลุ๊คด้วยปัตตาเลี่ยนเป็นครั้งแรกในชีวิต สร้างความดีใจให้กับพ่อแม่ของของฟลุ๊คเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาแม่ต้องใช้กรรไกรตัดผมให้ลูกชายมาโดยตลอด ซึ่งก็แหว่งบ้าง ไม่เป็นทรงบ้าง ยิ่งพอน้องโตก็ยิ่งมีความยากลำบากในการพาน้องเข้าร้านตัดผม เพราะบางวันลูกชายจะชักเกร็งและตื่นกลัว

ทั้งนี้ นายสุวิจักขณ์ หรือ ช่างโจ ก็เป็นช่างตัดผมที่พิการขาขวาท่อนล่าง และต้องใส่ขาเทียมตั้งแต่ช่วงหัวเข่าลงมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เนื่องจากเมื่อปี 2563 ได้มีโอกาสเข้าเรียนตัดผมที่วิทยาลัยสารพัดช่างตรังโดยการสนับสนุนของสำนักงานจัดหางาน จ.ตรัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มอบอุปกรณ์ตัดผมให้ฟรี เพื่อให้ช่างโจได้มีรายได้ แต่เนื่องจากช่างโจยังไม่มีหน้าร้าน จึงคิดนำอุปกรณ์ตัดผมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการตระเวนขับรถจักรยานยนต์ตัดผมฟรีให้กับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ และผู้สูงอายุในเขตอำเภอเมืองตรัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในยุคที่ข้าวของมีราคาแพง ประกอบกับผู้พิการ หรือผู้ป่วยติดเตียงส่วนใหญ่ ไม่สามารถเดินทางเข้าร้านตัดผมได้ จึงเข้าใจหัวอกเดียวกัน

นอกจากช่างโจ จะตัดผมให้น้องฟลุ๊คแล้ว ยังได้ตัดผมให้กับพ่อของน้องฟลุ๊ค โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เนื่องจากพ่อก็พิการขาหักต้องใส่เหล็กไว้เช่นกัน โดยในอนาคตช่างโจ ฝันว่าอยากมีเงินทุนสักก้อน เพื่อจะได้ตระเวนขับรถไปตัดผมฟรีให้กับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ และผู้สูงอายุทั่วทั้งจังหวัดตรัง หากครอบครัวไหนที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองตรัง และมีผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ฯลฯ สามารถติดต่อช่างโจได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-9645828 หรือทาง FB ภาษาอังกฤษ Suwijak Namsitan

นายประสพ พ่อของน้องฟลุ๊ค กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกของลูกชายที่ได้ตัดผมด้วยปัตตาเลี่ยน และขอบคุณช่างมาก ๆ ที่ได้มาตัดให้กับลูกชายและตนด้วย เป็นการตัดผมให้ลูกชายโดยช่างครั้งแรกในรอบ 18 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็ตัดกันเองสองคนพ่อแม่ และขอบคุณทุกคนที่มาให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้

นายสุวิจักขณ์ หรือ ช่างโจ เปิดเผยว่า ตนยังไม่พร้อมเรื่องการเปิดหน้าร้าน จึงตัดสินใจเอาอุปกรณ์มาทำประโยชน์ด้วยการเป็นจิตอาสาตัดผมฟรี ตั้งแต่ปี 2563 โดยมีลูกค้าที่พิการขาประจำประมาณ 7-8 ราย ซึ่ง 2-3 เดือนจะไปตัดให้ จะโทรศัพท์ไปถามความสมัครใจก่อนเพื่อนัดคิว และจะตัดเฉพาะในอำเภอเมือง ในอนาคตตนอยากหาแหล่งทุนมาสนับสนุน เพื่อจะไปตัดผมให้คนพิการทั่วทั้ง จ.ตรัง เพราะทุกวันนี้ตนทำแล้วรู้สึกสบายใจ แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่ตนก็คิดว่าได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม