นอนคุก! ศาลค้านประกันตัว ส.ต.ท.ทำร้ายทหารหญิง พบส่งข้อความข่มขู่ ก่อนยกเลิกข้อความ

วันที่ 22 สิงหาคม 2565  พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ บัวแย้ม ผู้ต้องหาคดีกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 309 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ซึ่งพนักงานสอบสวน ผู้ร้องและผู้เสียหาย ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยเนื่องจาก เกรงว่าผู้ต้องหา จะไปก่อเหตุอันตรายหรือความเสียหาย

โดยศาลจังหวัดราชบุรี พิจารณาเหตุจำเป็นตามคำร้องฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.- 2 ก.ย.นี้

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมแสดงความยินยอมขอติดกำไล EM ระหว่างการขอปล่อยชั่วคราว และยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งหรือเงื่อนไขใดๆ ของศาลด้วย

โดยศาลพิจารณาแล้ว ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ให้ยกคำร้อง

-------------------------------------------------------

ศาลไม่ให้ประกันตัว หลังส่งข้อความไปหาทหารหญิง คาดไปข่มขู่ ก่อนยกเลิกข้อความ

ขณะที่เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว ส.ต.ท.กรศศิร์ บัวแย้ม อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยมี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง และทหารหญิงที่ถูกทำร้ายพร้อมกับญาติๆ ได้ไปทำเรื่องขอคัดค้านการประกันตัวที่ศาลด้วย

ต่อมาในช่วงเวลา 13.40 น. นายกัน จอมพลัง และทหารหญิงที่ถูกทำร้ายพร้อมกับญาติๆ ได้ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ผู้ต้องหา เนื่องจากทางผู้สียหายได้ทำหนังสือขอคัดค้านการประกันตัว รวมทั้งทางตำรวจก็ได้ทำเรื่องขอคัดค้านมาด้วย ซึ่งมีหลายคนที่มาคัดค้านการประกันตัว

และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ส.ค.) ทางผู้ต้องหาได้ส่งข้อความไปหาผู้เสียหายทางไลน์แล้วมีการยกเลิกข้อความไป ซึ่งผู้เสียหายนั้นอ่านไม่ทัน แต่ได้แค๊ปข้อความไว้หมดแล้ว แต่ผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้ส่งข้อความมา ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว เกรงว่าอาจจะเป็นข้อความข่มขู่ ตั้งแต่เป็นข่าวมาก็เพิ่งจะมีข้อความส่งมาครั้งแรก และมีการไปสอบถามว่าบ้านอยู่ที่ไหนจากเพื่อนๆของผู้เสียหายด้วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวมาก


น้องเอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ทราบจากเพื่อนว่าเขาไปถามว่าบ้านเราอยู่ตรงไหน เลยรู้สึกกังวลและกลัวมาก ตอนเช้าส่งข้อความมา ก็ถูกยกเลิกข้อความไปแล้ว ไม่รู้จะข่มขู่อะไรอีกหรือเปล่า เมื่อรู้ว่าศาลไม่ให้ประกันตัวแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง  

เขาเคยเล่าให้ฟังว่า ในอดีตเขาเคยไปรักษาโรคซึมเศร้า แต่ตั้งแต่รู้จักและอยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลาหลายปีไม่เคยไปรักษาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขามีการรักษาแค่โรคกระเพาะ ลำไส้เท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ขอดูใบรับรองแพทย์เลย แต่พอทราบว่าใบรับรองแพทย์ เพิ่งออกมาก่อนมามอบตัว มองว่ามันไม่ใช่ เพราะอยู่กับเรามาตลอดระยะเวลาไม่มีการรักษา มีแค่กินยานอนหลับ ไม่มีการรักษาแบบต่อเนื่อง ตนเคยบอก คุณกัน จอมพลังแล้วว่า เขาจะต้องออกมาบอกว่าทำอะไรไม่ผิดหรอก เพราะมีประวัติการรักษา เหมือนที่เคยบอกไป ทราบอยู่แล้วว่าจะต้องมาไม้นี้ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตก็อยากจะทราบเหมือนกัน และไม่เคยเห็นเขาทำร้ายใครแบบนี้นอกกจากตนเองคนเดียว

 สาเหตุที่ไม่ต่อสู้ช่วงเขาทำร้าย เพราะรู้สึกกลัวอิทธิพลที่เขาข่มขู่มา กลัวจริงๆ เขาใช้คำพูดว่าจะไม่ได้ทำเอง แต่เขาจะสั่งให้คนอื่นทำ นั่นหมายความว่าเขามีอิทธิพลมากกว่าตัวเขาเอง เราเลยไม่สู้

---------------------------------------------------------------------------------

ผู้การ สันติบาล1 ตั้ง คกก.สอบวินัย และหากได้รับการประกันตัวต้องเข้ามารายงานตัว ส่วนปมข้อสงสัยการเข้ารับราชการ เป็นเรื่องของหน่วยที่รับเข้ามา และต้องผ่าน “กองบัญชาการศึกษา”

ด้านพลตำรวจตรีอุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 กล่าวถึงกรณีการเข้ารายงานตัวต่อต้นสังกัด ของสิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ หลังจากศาลจังหวัดราชบุรีไม่อนุญาตให้ประกันตัว ว่าถึงแม้ศาลจะไม่ให้ประกันตัว แต่ส่วนของต้นสังกัดคือกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยแล้ว ส่วนเรื่องการไม่ให้ประกันตัวเป็นเรื่องของคดีอาญา ซึ่งหาก ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวในภายหลัง จะต้องเข้ามารายงานตัวกับกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1

นักข่าวถามว่า ในเมื่อศาลไม่ให้ประกันตัว จำเป็นต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล บอกว่า ไม่เกี่ยวกัน ส่วนของทางวินัยก็จะรอผลสอบจากคณะกรรมการฯ ส่วนคดีอาญาก็ว่าไปตามกระบวนการ ทั้งนี้การสอบวินัยก็จะอ้างอิงจากคดีอาญาเป็นหลัก ส่วนผลของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยจะเป็นอย่างไร จะทราบภายใน 180 วันหรือไม่นั้น ตนเองไม่สามารถก้าวก่ายได้

ส่วนการเข้ารับราชการของ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ เข้ามาโดยผ่านช่องทางไหน พล.ต.ต.อุดร ตอบว่า ตนเองไม่ทราบข้อมูล เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของหน่วยที่รับเข้ามา ซึ่งการสอบเข้ารับราชการ เท่าที่ถามต้องผ่าน “กองบัญชาการศึกษา” ส่วนหน่วยงานอื่นจะเปิดอัตรารับเองได้หรือไม่นั้น เท่าที่ตนเองทราบ อย่างไรก็ต้องผ่านส่วนกลาง แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่ามีข้อยกเว้นอย่างไรหรือไม่

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/zUzyjMshOiM