ควานหาตัวแม่ทิ้งลูกเพิ่งคลอดลงแม่น้ำ คนปักเบ็ดหาปลาผงะนึกว่าตุ๊กตาลอยมา

เมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 15 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ศุภชัย เพชรดุล สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งว่าคนหาปลาพบศพทารกลอยน้ำอยู่ในแม่น้ำชุมพร บริเวณท่าน้ำจุดลอยกระทงเฉลิมพร จึงรุดไปตรวจสอบ นพ.วิบูลย์ ทองด้วง แพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

เมื่อไปถึงในที่เกิดเหตุพบศพทารกสภาพลอยคว่ำหน้า ติดอยู่ในพงหญ้าริมตลิ่ง ใต้สะพานเทศบาลเมืองชุมพร 3 และห่างจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เพียง 200 เมตร จึงเร่งให้หน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล ใช้เรือยางนำร่างทารกขึ้นมาเพื่อชันสูตรศพ พบว่าเป็นเพศชาย มีสายสะดือยาวติดอยู่บริเวณหน้าท้อง ลิ้นจุกปาก คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน

นายมานะชัย กดทรัพย์ อายุ 44 ปี ชาวต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้พบศพทารก เปิดเผยว่า ตนมีบ้านอยู่ไม่ห่างจากที่พบศพทารก และทุกคืนตนจะนำเรือแจวออกไปหาปลาในแม่น้ำชุมพรเพียงลำพัง เหมือนเช่นคืนนี้หลังจากกินข้าวกินปลาเสร็จแล้ว ก็ตระเตรียมอุปกรณ์เครื่องต่าง ๆ ใส่เรือแล้วพาลัดเลาะ เพื่อปักเบ็ดตามพงหญ้าริมตลิ่ง พอมาถึงใต้สะพานที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นอะไรบางอย่างคล้ายตุ๊กตาลอยน้ำติดอยู่ในพงหญ้า ที่ตนกำลังจะไปปักเบ็ด

เมื่อเห็นในครั้งแรก ตนก็ไม่สนใจอะไรมาก ได้พายเรือเข้าไปใกล้ แล้วใช้ไฟฉายที่ศีรษะส่องดู ถึงกับตกใจเพราะภาพที่เห็นลอยอยู่ตรงหน้า ไม่ใช้ตุ๊กตาเหมือนที่คิด แต่กลับเป็นศพเด็กสภาพลอยคว่ำหน้า จึงได้หันเรือกลับแล้วเรียบแจวอ้าวขึ้นมาบนฝั่ง ก่อนจะแจ้งไปที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

นพ.วิบูลย์ ทองด้วง แพทย์เวร รพ.ชุมพรฯ กล่าวว่า จากการชันสูตร เด็กมีอวัยวะครบสภาพสมบูรณ์ทุกอย่าง ส่วนการติดตามหาตัวผู้เป็นแม่นั้น ก็ต้องตรวจดีเอ็นเอของเด็กเพื่อไปเทียบเคียง หรือต้องไปสืบหาประวัติคุณแม่ที่มาทำคลอด หรือประวัติการฝากครรภ์ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ และอายุครรภ์ที่ใกล้เคียงหรือครบกำหนดคลอด ซึ่งก็ต้องรอให้ทางตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอจากกระดูกศพก่อนเพื่อส่งให้นิติวิทยาศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็ตรวจสอบข้อมูลตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อหาผู้เป็นแม่ และจะรู้ว่าเด็กหลุดออกมาเองหรือตั้งใจทำต่อไป