ม็อบศรีลังกาหยุดประท้วง หลังประธานาธิบดี-นายกฯ ลาออก แต่บางส่วนยังปักหลักทำเนียบ เพื่อพักผ่อน

สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในศรีลังกา ภายหลังจากที่ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล ที่บริหารประเทศได้สุดย่ำแย่ รวมตัวกันบุกทำเนียบประธานาธิบดี และเผาบ้านนายกฯ

ล่าสุด ประชาชนได้หยุดการประท้วงตามท้องถนนแล้ว แต่บางส่วนยังคงปักหลักอยู่ที่ทำเนียบประธานาธิบดี

โดยสถานการณ์ที่ทำเนียบประธานาธิบดีนั้น ผู้ประท้วงบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ บางคนยังคงใช้บริการฟิตเนส และพักผ่อนกันอยู่ตามจุดต่างๆ ในทำเนียบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ภาพการบุกทำเนียบกลายเป็นข่่าวสะเทือนโลก ผู้ประท้วงกระโดดเล่นน้ำในสระกันอย่างสนุกสนาน

โดย โกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา ได้ประกาศจะลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 13 ก.ค. 2565 ขณะที่ รานิล วิกรมสิงห์ นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ซึ่งอยู่รั้งอันดับแรก ในการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีแทนราชปักษา ก็ระบุว่า ตนเองเต็มใจที่จะลงจากตำแหน่ง เพื่อปูทางให้รัฐบาลที่มีเอกภาพเช่นกัน แต่กระนั้น มีรายงานว่า ม็อบได้จุดไฟเผาบ้านพักของวิกรมสิงเหเช่นกัน

รายงานระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่า ประธานาธิบดีราชปักษาอยู่ที่ไหน หลังจากที่ได้หลบหนีออกจากทำเนียบประธานาธิบดีไม่นาน ก่อนที่ผู้ประท้วงจะบุกเข้าไป แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอ ทางทวิตเตอร์ระบุว่า เป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขนกระเป๋าของราชปักษาขึ้นเรือ ที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ ประชาชนชาวศรีลังกาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอย่างที่สุด ทั้งประเทศแทบไม่มีน้ำมันให้เติม ไฟฟ้าเริ่มขาดแคลน รัฐบาลบริหารประเทศได้อย่างย่ำแย่ จนทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศแทบเกลี้ยงคลัง จนประชาชนโกรธแค้นอย่างหนัก

โดยอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน ของศรีลังกา พุ่งสูงถึง 54.6% และคาดว่าจะพุ่งแตะ 70% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ยิ่งซ้ำเติมประชาชนที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่แล้ว ให้ต้องเผชิญกับทางเลือกที่แทบจะไม่เหลืออยู่