โรฮิงญา 59 ชีวิต ถูกปล่อยเกาะกลางทะเลสตูล โดนหลอกถึงมาเลเซียแล้ว

ความคืบหน้ากรณี เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ออกลาดตระเวนตรวจตราตามภารกิจ แล้วไปพบชาวโรฮิงญา อยู่บนเกาะดง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ มีทั้งชาย หญิง และเด็ก ประมาณ 60 คน ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่จึงโยนน้ำดื่มให้ หลังจากนั้นประสานทหารเรือหน่วยปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ เข้าตรวจสอบ


จนช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมนำเรือ ต.996 ไปรับชาวโรฮิงญากลุ่มดังกล่าวขึ้นฝั่ง พบว่าเป็นชาย 31 คน หญิง 23 คน เด็ก 5 คน รวมทั้งหมด 59 คน โดยลำเลียงชาวโรฮิงญา มาขึ้นฝั่งที่สถานีละงู เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา จากนั้นให้ตำรวจ สภ.หลีเป๊ะ ทำบันทึกจับกุมตามขั้นตอน และนำทั้งหมดไปส่งที่กองร้อย ตชด.436 สตูล เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาคัดกรองป้องกันโรคโควิด-19


เบื้องต้น จากการสอบปากคำกลุ่มโรฮิงญา พบว่า ชาวโรฮิงญาที่พบ ทั้งหมดเดินทางมาจากเมียนมา แยกกันลงเรือเพื่อจะเดินทางไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่าใช้จ่ายให้หัวละ 5,000 ริงกิต หรือประมาณคนละ 38,000 บาท ให้กับคนนำพา ซึ่งมีกลุ่มที่เดินทางไปถึงมาเลเซีย แต่ถูกทางการมาเลเซียจับกุมไว้ได้ ส่วน 59 คนนี้ ทราบว่ามีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าหัวคิว และคนขับเรือซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย นำมาปล่อยไว้ที่เกาะดง โดยโกหกว่าเป็นเกาะลังกาวีของมาเลเซีย และปล่อยทิ้งไว้เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่แล้ว


นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ส่วนเส้นทางการเข้ามาในประเทศไทย จะเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์