จับชาวโรฮิงญา 71 ราย ลักลอบข้ามชายแดนแม่สอด เตรียมเดินทางต่อไปมาเลเซีย

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบราชมนู แม่สอด ร่วมกับ ชุดเคลื่อนที่เร็วกองกำลังนเรศวร ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณป่าอ้อย ใกล้กับบริเวณป่าช้า หมู่บ้านห้วยม่วงหมู่ที่ 6 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด พบกลุ่มคนซึ่งคาดว่าจะเป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก จึงตรวจสอบพบว่าเป็นชาวเมียนมาสัญชาติโรฮิงญาเป็นชายหญิงวัยรุ่น อายุระหว่าง 18-30 ปี หอบหิ้วสัมภาระกระเป๋าสำหรับเดินทางพักแรมทุกคน ในที่นี้ยังรวมไปถึงทั้งเด็กชายหญิงอายุ 5-10 ปี ซึ่งติดตามพ่อแม่มาจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นจำนวน 60 คน ตรวจค้นและสอบถามปรากฏว่าไม่พบเอกสารหรือสื่อที่บ่งบอกว่าเป็นคนสัญชาติใด จึงทำการประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมตรวจสอบและควบคุมไว้



ต่อมาได้มีประสานข้อมูลพบว่ามีชาวเมียบนมาสัญชาติโรฮิงญา อีกจำนวนหนึ่ง เข้าหลบอาศัยในบริเวณใกล้บ้านคน จึงสามารถควบคุมได้อีก 11 คน รวมเป็น 71 คน โดยในระหว่างจับกุมทั้งหมด นายหน้าและผู้นำพาซึ่งเป็นชาวอารากันเชื้อสายโรฮิงญา หลบหนีไปก่อนไม่กี่นาที ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินคดีตามกฎหมายในเวลาต่อมา



จากการสอบสวนเบื้องต้นและข้อมูลการข่าวของฝ่ายความมั่นคงชายแดนแจ้งว่า กลุ่มชาวเมียนมาสัญชาติโรฮิงญาทั้ง 71 ราย ได้ข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาฝังไทยเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ที่ผ่านมา และ พักรอในป่าหญ้า และกำลังรอนายหน้าที่จะมารับตัวนำส่งไปยังบ้านของแม่เลี้ยงชื่อดังรายหนึ่ง เสียค่าใช้จ่ายรายละ 80,000 แบ่งจ่ายเป็นตอน ๆ จนถึงปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย โดยแม่เลี้ยงรายนี้มีชื่อเสียงและมีประวัติเป็นผู้ค้าแรงงานต่างชาติ ตามตะเข็บชายแดนมานาน แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปจับแต่อย่างใด



สำหรับการทะลักของชาวโรฮิงญาครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณของเส้นทางใหม่ในการทะลักเข้าของชาวชาวโรฮิงญาและชาวเมียนมา ที่จะใช้เส้นทางแม่สอดเป็นจุดตั้งต้นในการเข้าสู่ประเทศไทยและไปยังประเทศที่สาม