หมอปลาบุกสำนักพระบิดา อึ้งเจอลัทธิกินฉี่-ขี้ไคล ผู้ว่าฯสั่งดำเนินคดีแล้ว

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอปลา ทนายไพศาล และกัน จอมพลัง ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่พาผู้เสียหายคนหนึ่ง ไปตามหาคุณแม่วัย 80 ปี เพราะไม่ยอมกลับบ้านนานนับปี หลังจากหลงเชื่อลัทธิประหลาดตามคำชักชวนของผู้ชายผมยาว "พระเมตยะ" ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นพระบิดาสูงสุดแห่งจักรวาล อยู่สูงกว่าทุก ๆ ศาสนา และเป็นผู้สร้างโลก

จากนั้นลูกศิษย์ก็โชว์ให้ดูว่าสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย ในร่างกายพระบิดา เช่น ฉี่ที่พระบิดาฉี่ไว้ในหลุมเล็ก ๆ และขี้ไคล จากร่างกายพระบิดา เปรียบเสมือนยารักษาโรคได้ทุกโรค ซึ่งพระบิดาไม่ได้อาบน้ำมา 9 เดือนแล้วด้วย

ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่สำรวจโดยรอบ และคุยกับพระบิด จู่ ๆ ก็มีหญิงคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์มีอาการประหลาดเกิดขึ้น คล้ายกับผีเข้า ก่อนจะถามนักข่าวว่า "คุณรู้หรือป่าวว่าพระบิดา คือ ผู้สร้างโลก ใหญ่กว่า พระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธ พระอันเลาะห์ในศาสนาอิสลาม และพระเยซูในศาสนาคริสต์ และพระบิดาจะเป็นผู้ที่คลองโลกใหม่ใหม่อนาคต"

หลังจากนั้นทีมข่าวได้รับแจ้งข้อมูลว่า ภายในที่แห่งนี้มีศพอยู่ประมาณ 11 ศพ ซึ่งศพเหล่านี้เป็นศพของลูกศิษย์ที่เลื่อมใสและปฏิบัติอยู่ที่นี่จนเสียชีวิต ซึ่งพระบิดา จะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้ทำอย่างไรกับศพแต่ละศพ โดยทุก ๆ ศพ นายมานะชัย งามดี ลูกศิษย์พระบิดา บอกว่า จะไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน แต่จะต่อสายสำหรับให้น้ำเหลืองไหลลงมา ตนยืนยันว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และตมระบบสาธารณะสุข

ขณะเดียวกันผู้เสียหายซึ่งร้องเรียนกับหมอปลา ก็ได้พบหน้าเจอกับคุณแม่ตัวเองวัย 80 ปี แต่คุณแม่กลับต่อว่า ทำไมถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ และอยากจะอยู่ที่นี่ตายกับพระบิดา ในขณะที่ลูก ๆ ต่างขอร้องว่าให้กลับบ้าน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพการกินฉี่กินขี้ไคล อาจจะทำให้โรคประจำตัวรุนแรงมากขึ้น แต่คุณแม่ก็ไม่ยอมกลับบ้าน กระทั่งตำรวจมาช่วยเจรจาจนยอมกลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้ว่าราชการฯ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งให้มีการดำเนินคดีทันทีกับกลุ่มผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่เนื่องจากว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ และยังถูกดำเนินคดีตามข้อหา พ.ร.ก.ควบคุมโรคอีกด้วย