โชเฟอร์แท็กซี่ แฉเจ้าอาวาสวัดดังลวนลาม ลวงเข้ารีสอร์ต ขอมีเพศสัมพันธ์

โชเฟอร์แท็กซี่เข้าแจ้งความกับตำรวจขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดดัง ย่านบางใหญ่ มีพฤติกรรมชายรักชาย ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย

นายอำนาจ โชเฟอร์แท็กซี่ นำหลักฐานเป็นข้อความที่มีการแชทกับ เจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งในย่านบางใหญ่ มาแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ เจ้าอาวาสรูปนี้ พร้อมระบุว่า มีพฤติกรรมในลักษณะชายรักชาย ขอมีเพศสัมพันธ์กับตน แต่ตนไม่ยินยอมสุดท้ายต้องใช้มือช่วยให้เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวสำเร็จความใคร่

โดยข้อความในแชทดังกล่าวเป็นลักษณะของการทักถามทำอะไรอยู่ วันนี้ขับรถเป็นยังไงบ้าง นอนหรือยัง ซึ่งฝ่ายโชเฟอร์ก็ทักตอบกลับไป และได้บอกด้วยว่าให้อีกฝ่ายโอนเงินมาให้ พร้อมส่งสลิปให้ดู ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่า ให้ 500 ด้วย

นายอำนาจ เปิดเผยต่อว่า ตนเองมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งเจ้าอาวาสได้เรียกใช้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น ให้ไปตามจุดต่างๆ หลายครั้ง และทุกครั้งที่ไปด้วยกัน ตนจะถูกเจ้าอาวาสลวนลาม จับขา จับของลับ ซึ่งเจ้าอาวาสจะพูดว่า เดี๋ยวจะซื้อรถใหม่ให้นะ ซึ่งก็ทนยอม เพราะในช่วงโควิดทำให้ไม่มีรายได้เพียงพอต่อค่าเช่ารถ

จนเมื่อเดือนธันวาคมปี 63 เจ้าอาวาสได้จ้างให้ขับรถไป ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยอ้างว่า ญาติโยมนิมนต์ และจะให้ค่ารถ 5,000 บาท แต่เมื่อไปถึงเจ้าอาวาสบอกให้ตนขับรถไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่มีการจองห้องไว้แล้วล่วงหน้า พร้อมจะหว่านล้อมขอมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งตนบอกไม่ยินยอมแต่บอกกลับไปว่าจะใช้มือช่วยให้ จนเสร็จกิจตามที่ต้องการ และก่อนเดินทางกลับได้ให้เงิน 5,000 บาทบอกเป็นค่ารถ จากนั้นเจ้าอาวาสได้บล็อกไลน์ตน ทำให้ไม่ได้ติดต่อ

ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคมปี 64 เจ้าอาวาสได้ปลดบล็อกไลน์มาถามว่า ช่วงนี้มีเงินไหม สุดท้ายก็เรียกไปหาที่กุฏิ บอกจะให้เงิน 10,000 บาท แต่เมื่อไปถึง เจ้าอาวาสบอกขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งตนไม่ยินยอม จนในที่สุดก็ต้องใช้มือช่วยให้เสร็จกิจ และได้เงินมา 1,000 บาท แต่สุดท้ายพอเข้าไปแล้วก็ถูกขอมีเพศสัมพันธ์ แต่ตนไม่ให้ตามที่ต้องการ เจ้าอาวาสองค์นี้ก็ให้เงินมา 1,000 เป็นค่าเหนื่อยที่ตนใช้มือช่วยจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น เจ้าอาวาสก็พยายามชักชวนตนอีก ตนรับว่ารู้สึกไม่ดี และแจ้งไปว่าตนจะแจ้งสำนักพุทธศาสนา ทำให้เจ้าอาวาสบล็อกไลน์ตนไป ซึ่งตนเชื่อว่า น่าจะมีหลายคนโดนเช่นนี้ จึงมาแจ้งความ

และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเข้าไปยังวัดบางเลน เพื่อขอเข้าพบเจ้าอาวาส ซึ่งพระลูกวัดแจ้งว่า เจ้าอาวาสไม่ได้อยู่ที่วัด เพราะมีกิจนิมนต์นอกวัด

ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับร้อยตรีไกร อิ่มวงค์ ไวยาวัจกร ก็ได้ปฏิเสธว่าเจ้าอาวาสไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนการเรียกแท็กซี่ไปส่งตามสถานที่ต่างๆ คิดว่าไม่จำเป็น เพราะเจ้าอาวาสก็มีรถยนต์ที่มีไว้ใช้ส่วนตัวในวัดอยู่แล้ว ขณะที่ชาวบ้านบอกด้วยว่า ไม่เชื่อว่า เจ้าอาวาสจะมีพฤติกรรมดังกล่าว

และในระหว่างพูดคุย ก็มีญาติโยมที่อยู่นั่งอยุูในวัด ได้นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปผู้สื่อข่าวที่ไปติดตามทำข่าวนี้ไว้ด้วย

ส่วนในเรื่องนี้ นายสิทธา มูลหงษ์ โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้รับทราบเรื่องแล้ว และสั่งการให้กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าทางนายสหัส บรรจงเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นนทบุรี ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในวัดบางเลนเรียบร้อยแล้ว ไม่พบตัวเจ้าอาวาสที่ถูกโซเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อกล่าวหา ทราบว่า ออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

นายสหัส บอกว่า เบื้องต้นได้ประสานตำรวจ สภ.บางใหญ่ เจ้าของคดี ซึ่งต้องรอให้ตำรวจสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน ทั้งผู้แจ้งความและผู้ถูกกล่าวหา ทางคณะปกครองพื้นที่จึงจะพิจารณาว่า เจ้าอาวาสดังกล่าวมีความผิดตามพระวินัยหรือไม่ ตอนนี้ยังถือว่าพระรูปนี้ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่