อาชญากรรม

กระทรวงยุติธรรม แถลงผลชันสูตรแตงโมรอบ 2 พบแผล 22 จุดทั่วร่างกาย

โดย kanyapak_w

31 มี.ค. 2565

6.2K views

กระทรวงยุติธรรม แถลงผลผ่าศพแตงโม นิดา รอบสอง พบ 4-5 ประเด็นที่ต่างจากการผ่าครั้งแรก โดยเฉพาะประเด็นพบบาดแผล 22 บาดแผล // ด้านทนายเดชา ชี้ จะศึกษาข้อมูล และปรึกษาว่าข้อสังเกตที่พบ โดยเฉพาะบาดแผล จะเป็นประโยชน์แก่การแจ้งข้อหาเป็นเจตนาได้หรือไม่



ที่กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นตัวแทน ส่งมอบผลการชันสูตรศพคุณแตงโม นิดา รอบ 2 ให้กับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นตัวแทนของ คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่คุณแตงโม หลังจากครอบครัวมีความประสงค์ ขอตรวจสอบซ้ำเพื่อให้คลายข้อสงสัย เพื่อนำผลไปพิจารณาว่า มีข้อแตกต่างจากการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกอย่างไร และมีประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่

โดยวันนี้มี พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ // ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ // นพ.รักษชัย นาทองไชย หัวหน้ากลุ่มพยาธิวิทยา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมแถลงผลการผ่าพิสูจน์



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 11 ข้อ ที่คุณแม่คุณแตงโมสงสัย เพื่อมาตรวจพิสูจน์ ซึ่งมีบางประเด็นเกี่ยวกับการผ่าพิสูจน์ที่ไม่สามารถตอบคำถามได้ เนื่องจากอาจจะกระทบต่อรูปคดี และเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ซึ่งการผ่าพิสูจน์ครั้งนี้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ


ทั้งนี้ ข้อสงสัยที่มีการตรวจสอบ อย่าง

-ศีรษะ จากการผ่าพิสูจน์รอบแรก กับรอบสอง ไม่พบบาดแผลใดๆ


-สภาพใบหน้าของศพ จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผล เนื่องจาก มีภาพการตรวจศพคุณแตงโมวันแรก หลังจากพบร่าง ยืนยันว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพศพ ที่อาจเกิดจากอากาศ ความดัน

-ลำคอที่สวมสร้อยอยู่ มีภาพแรกที่ยังเจอสร้อยคอหย่อนๆ ตามปกติ แต่ภาพที่สงสัยว่าเป็นรอยรัด มีการตรวจเนื้อเยื่อไม่พบลักษณะการรัดคอ

-รอยไหม้ใต้คอ ที่มีการตั้งข้อสังเกต ก็ได้ตรวจแล้ว

-บาดแผลที่ขา ที่มีการรายงานผลแล้ว

-เล็บมือ ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่

-แผ่นหลัง ไม่พบบาดแผล หรือร่องรอย

-หลอดลม ก็ได้ทำการตรวจและรายงานผล

-อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว

-เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบสอง ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท

-และโครงสร้างกระดูกทั้งหมด มีการทำซีทีสแกน ไม่พบการแตกหัก บิ่น รวมถึง ฟัน ยังครบถ้วนสมบูรณ์



ทั้งนี้ สรุปคร่าวๆ จากการตรวจสอบครั้งที่ 2 มีจุดที่แตกต่างจากการผ่าชันสูตรครั้งแรกประมาณ 4-5 ประเด็น ซึ่งก็คือ บาดแผลทั้งหมด 22 จุด // ภาพถ่ายศพในที่เกิดเหตุในวันแรก ที่มีการบันทึกไว้ // การผ่าชันสูตรรอบแรกสภาพศพ ยังไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน ส่วนรอบสองฉีดแล้ว ทำให้บางอย่างตรวจไม่ได้ //และเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนไป


ทางด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ทางสถาบัน ได้รับเรื่องตั้งแต่ 14 มีนาคม // วันที่ 15 มีนาคม ได้ประชุมก่อนมีมติผ่าครั้งที่ 2 ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ.2559 ในวันที่ 16 มีนาคม ได้ตั้งคณะทำงานจากแพทย์หลายสถาบัน และมีการผ่าวันที่ 17 มีนาคม โดยจะเห็นว่าใช้เวลา 4 วันในการตรวจสอบ

และจากวันที่ 14 มีนาคมเป็นต้นมาถึงวันนี้ ความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้น เพราะต้องรอผลจากห้องแลป ซึ่งตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ยืนยันว่าการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ถือเป็นประโยชน์ แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อมูลจะถือเป็นความลับ หลังจากนี้ทนายเดชา ได้รับไปแล้ว ดังนั้น การจะเปิดเผยข้อมูลนั้นอาจไม่ได้ทั้งหมด

ขณะที่ ผศ.นพ.วรวีร์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งแรก ถือว่ามีมาตรฐานที่ถือว่าทำให้ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ในรอบสองเพียงเป็นการย้ำว่าข้อสงสัยในข้อแรกนั้นว่าใช่หรือไม่ใช่ สำหรับบาดแผลที่ขา ที่หลายคนสงสัย ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดอย่างไร โดยเชื่อว่าตำรวจได้ไปจำลองการเกิดบาดแผลกับวัตถุต่างๆ อาจจะเป็นใบพัดเรือ หรืงวัตถุอื่น เพื่อเปรียบเทียบกับบาดแผล

ส่วนประเด็นที่มีการตรวจสอบแอลกอฮอล์นั้น ผศ.นพ.วรวีร์ อธิบายว่า ปกติแล้ว การขับแอลกอฮอล์ออกมา จะสามารถขับออกทางลมหายใจได้ แต่เมื่อเสียชีวิต ร่างกายจะไม่สามารถขับออกได้ ทำให้การตรวจสอบ จึงพบปริมาณแอลกอฮอล์

สำหรับยูเรีย ถือเป็นองค์ประกอบในปัสสาวะ หากมีน้ำปัสสาวะในแผ่นอนามัยก็จะตรวจเจอ แต่การตรวจไม่พบ อาจเป็นไปได้หลายปัจจัย ทั้งอาจจะไม่ได้ปัสสาวะ หรือแผ่นดังกล่าวแช่น้ำ ทำให้ยูเรียอาจจะถูกชะล้างไป

ขณะที่ทนายเดชา กล่าวว่า หลังจากนี้ จะต้องนำเอกสารฉบับนี้ไปปรึกษากับตำรวจ ว่าจะมีข้อมูลใดเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์กับการแจ้งข้อหาใครเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นบาดแผล 22 บาดแผล ซึ่งจะต้องปรึกษากับแพทย์ว่า บาดแผลที่พบนั้นสามารถเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การแจ้งข้อหาจากประมาท เป็นเจตนาได้หรือไม่ และต้องไปดูว่าผลการชันสูตรในรอบ 2 จะมีข้อแตกต่างกับการชันสูตรรอบแรกในจุดใดบ้าง แต่ส่วนตัวเท่าที่ทราบ จากการฟังการชี้แจง ตอนนี้ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ

สำหรับการตรวจสอบก็พบว่า การดำเนินการของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ถือว่ามีมาตรฐานสากล ทุกอย่างเรียบร้อย แต่เรื่องบาดแผลอาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ ถือว่ามีประโยชน์ แต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะสภาพศพถือเป็นพยาน ต้องไปดูว่ามีร่องรอยการทำร้ายหรือไม่ หากมีก็ต้องเทียบกับพยานแวดล้อม จีพีเอส เพื่อประกอบการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเจตนาฆ่า ลำพังบาดแผลยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากเจตนาหรือไม่ ทั้งนี้ มั่นใจว่าคงไม่มีการผ่าพิสูจน์ซ้ำรอยที่ 3 ตั้งแต่ตนเป็นทนายความมามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่คดีนี้คงพอแล้ว

ส่วนกรณีที่วานนี้มีข่าวว่าตำรวจยื่นขอศาลออกหมายจับคนบนเรือเพิ่ม แล้วศาลยกคำร้องนั้นยืนยันว่าไม่เป็นจริง เพราะตำรวจคงไม่ทำอะไรให้หน้าแตก แต่เชื่อว่าคงเร็วๆ นี้ อาจจะมีการออกหมายจับ หรือแจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มเติม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แตงโม ,แตงโมนิดา ,ผลชันสูตร

คุณอาจสนใจ

Related News