ดับ 8 ศพ เซ่นรถทัวร์ชนตอม่อ จนท.ยังไม่สรุปสาเหตุ คาดคนขับหลับใน-ยางระเบิด

ตำรวจและกรมการขนส่งทางบก ยังไม่สรุปสาเหตุอุบัติเหตุรถทัวร์ชนตอม่อ ที่อาจเป็นไปได้ว่าคนขับหลับใน หรือยางระเบิด เจ้าหนาที่่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำขคนขับอย่างละเอียด ขณะผู้้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 8 คนแล้ว

พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถทัวร์โดยสาร เส้นทางสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ ที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวานจนมีผู้เสียชีวิตรวม 8 คน โดยระบุว่าอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำ และตรวจสอบตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ว่าเกิดจากสภาพรถยนต์ หรือความประมาทของคนขับ ขณะกรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบความเร็วจากระบบจีพีเอส พบว่าไม่เกินกว่ากำหนด แต่กล้องวงจรก่อนมาถึงที่เกิดเหตุพบรถวิ่งช่องทางด้านขวามาตลอด ก่อนเสียหลักพลิกชนเสาตอม่อ 

กล้องวงจรปิดของตำรวจทางหลวงที่ถนนมิตรภาพ บันทึกภาพขณะรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ของบริษัทสหพันธ์ร้อยเอดทัวร์ ร่วมบริการกับบริษัทขนส่งจำกัด วิ่งพาผู้โดยสารมุ่งหน้าปลายทางที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยกล้องบางจุดเห็นภาพรถทัวร์วิ่งชิดช่องจราจรด้านขวา ก่อนจะมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่มีรถคันอื่นเป็นคู่กรณี แต่มีลักษณะคล้ายเสียหลักก่อนชนกับเสาต่อม่อสะพานที่ช่องจราจรด้านขวา

สอดคล้องกับการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เพื่อตรวจเก็บหลักฐาน นำไปวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุซึ่งพบว่าแท่งปูนที่ทำเป็นแนวแบริเอร์ขอบทาง มีร่องรอยตัวถังของรถขูดขีดขอบปูน จากแนวระดับพื้นถนน เรื่อยไปจนสุดของความสูงของขอบปูน กระทั่งดันให้ตัวรถด้านขวา ชนกับเสาตอม่อ ริมทาง ส่วนหลังคารถโดยสาร ชนขอบปูนด้านบนที่เป็นสะพาน

ขณะเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายตรวจสภาพรถโดยสาร พบว่ายางล้อหน้าและหลังด้านขวา ฝั่งคนขับเสียหายหนัก ส่วนด้านซ้ายทั้งล้อหน้าและหลัง ยังอยู่ในสภาพที่พอจะตรวจวิเคราะห์ได้ ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลไปวิเคราะห์

สมพร สิทธิการะนา หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสระบุรี ระบุว่าฐานฐานข้อมูลGPS ของรถคันนี้ บ่งชี้ตัวคนขับ ออกจากต้นทางที่สถานีขนส่งพนมไพร จ.รอยเอ็ดเมื่อราว 7 นาฬิกา วันที่ 11 ปลายทางที่สถานีขนส่งจตุจักร จากGPRS พบว่าตลอดเส้นทาใช้ความเร็วตามกำหนด และระหว่างทางได้จอดที่จุดเช็คพ้อยส์ ที่สถานขนส่งนครราชสีมา แห่งที่ 2 เมื่อราว 12 นาฬิกา เมื่อวาน โดยไม่พบการผิดปกติของรถ  กระทั่งความเร็วสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ คือ 89 กิโลเมตต่อชั่วโมง

เจ้าเจาหนาที่ระบุว่า ขณะนีอยู่ระหว่างรอสอบปากคำคนขับรถ ซึ่งรักษาตัวที่รพ.แก่งคอย เพื่อวิเคราะห์ร่วมกับการตรวจสภาพรถว่าเกิดจากคนขับหลับใน หรือเกิดจากปัญหาสภาพรถหรือไม่

จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวม 8 คน เป็นชาวไทย 6 และชาวลาว 2 คน บาดเจ็บ 22 คน บางส่วนกลับบ้านได้แล้ว ยังเหลือบาดเจ็บสาหัส 10 คน รักษาตัวอยู่ที่รพ.สระบุรี ซึ่งผู้เสียชีวิต มูลนิธิได้ทะยอยนำร่างกลับภูมิลำเนาให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล

ขณะที่ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก พบว่าผู้ประกอบการรถคันนี้ทำประกันภัยทังบางบังคับและสมัครใจ ซึ่งยังมีอายุคุ้มครอง เพื่อเยียวยาการเสียชีวิตรวม คนละ 1.1 ล้านบาท