สังคม

‘ทหารเมียนมา’ ส่งฝูงบินกวาดล้าง ‘กะเหรี่ยงเคเอ็นยู’ ไทยรับผู้อพยพเพิ่ม 226 คน

โดย pattraporn_a

24 ธ.ค. 2564

35 views

ทหารเมียนมาโจมตีทางอากาศในพื้นที่กะเหรี่ยง KNU ส่งผลให้มีผุ้อพยพเพิ่ม ทำให้คนไทยริมชายแดนต้องอพยพไปในที่ปลอดภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สั่งการทุกอำเภอเตรียมความพร้อมรับมือผู้อพยพ นายกรัฐมนตรีย้ำไทยให้การช่วยหลือด้านมนุษยธรรม

คนไทยริมชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลายหมู่บ้านอพยพไปในที่ปลอดภัย หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารเมียนมา เปิดฉากโจมตีทางอากาศในพื้นที่ทหารกะเหรี่ยง KNU ส่งผลให้มีผู้อพยพเข้ามาเพิ่มอีก 226 คน เพิ่มจากเดิมรวมกว่า 3,200 คน เข้ามาพักพิงในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวของไทย โดยกองกำลังนเรศวร แจ้งเตือนไปยังรัฐบาลเมียนมาให้ระมัดระวังการใช้อาวุธและอากาศยานปฏิบัติการทางอากาศ ที่ไทยพร้อมตอบโต้ทันทีที่มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ขณะที่ knu เรียกร้องสหประชาชาติ กำหนดเขตห้ามบิน เพื่อยับยั้งปฏิบัติการของทางทหารเมียนมาโดยด่วน

ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อส. ทหาร และ ตำรวจ ในทุกหมู่บ้านริมชายแดนไทย-เมียนมา เช่นบ้านแม่กุหลวง ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จัดเวรยามดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่บางครอบครัว อพยพไปบ้านญาติ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารเมียนมาเปิดปฏิบัติการทางอากาศโจมตีทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เสียงเครื่องบินและระเบิดได้ยินมาถึงฝั่งไทย

ซึ่งกองกำลังนเรศวร ตรวจพบ การปฏิบัติการทางอากาศของทหารเมียนมา ห่างชายแดนไทยไปทางทิศตะวันตกของเมียนมา ประมาณ 9 กิโลเมตร ในเมืองเลเกก่อ จังหวัดเมียวดี และยังมีเหตุปะทะในเมืองแม่ทอดตะเล ห่างจากชายแดนไทยเพียง 500 เมตร ทำให้มีกระสุนไม่ทราบชนิด ไม่ทราบฝ่ายตกลงมาบริเวณริมน้ำเมย 17 นัด บริเวณริมแม่น้ำเมาย กองกำลังนเรศวร ได้สั่งการกรมทหารราบที่ 14 ทำการยิงเตือนด้วยกระสุนควัน เพื่อแจ้งเตือนไปยังกำลังทั้งสองฝ่าย รวมทั้งทำการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา ผ่านคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น ทีบีซี ให้ฝ่ายเมียนมาระวังการใช้อาวุธและการใช้อากาศยานปฏิบัติการทางอากาศ โดยไทยจะตอบโต้ทันทีที่พบการรุกล้ำอธิปไตย และวางกำลังลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย ซึ่งชาวบ้านแม่กุหลวง และบ้านไร่ ดอนไชย ยอมรับว่าหวาดกลัวกว่าทุกครั้งเพราะมีการใช้อาวุธหนักรุนแรงในรอบหลายสิบปี

โดยที่บ้านแม่กุหลว ยังเป็นจุดที่ตั้งพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว สำหรับผู้อพยพมาใหม่ ซึ่งกลุ่มนี้ 226 คน มาจากเหตุโจมตีทางอากาศเมื่อคืนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไทยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเดินทางกลับไป 59 คน เหลือ 167 คน อาจจะให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยคอดวัวลุ่งปั๋น รวมกับกลุ่มเดิมที่มีผู้แล้ว 473 คน



ส่วนที่โรงเรียนบ้านแม่ตาวกลาง มีผู้หนีภัยที่เข้ามาตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม มีผู้เดินทางกลับไป 128 คน คงเหลือ 1,302 คน ยังคงได้รับการดูแลเรื่องอาหาร และการแพทย์จากเจ้าหน้าที่ไทยเป็นเวลา 10 วันแล้ว รวมถึงที่คอกวันมหาวันเมยโค้ง มีเข้ามาเพิ่มอีก 470 คน เป็น 1,511 คน รวมมีผุ้หนีภัยอยู่ในความดูแลของไทยอีกกว่า 3,200 คน ซึ่งนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ยืนยันว่า ไทยให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และผู้เดินทางกลับเป็นผู้ที่สมัครใจ ส่วนที่เหลือต้องรอให้สถานการณ์ปลอดภัย และได้สั่งการทุกอำเภอในพื้นที่ชายแดนเตรียมพร้อมรับมือการอพยพด้วย ซึ่งมีการเตรียมแผนไว้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงการดูแลคนไทยที่มีแผนอพยพในพื้นที่ปลอดภัย

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของทหารเมียนมาในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการที่รุนแรงครั้งนี้ หวังกวาดล้างทหารกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ที่ผนึกกำลังกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน พีดีเอฟ ต่อต้อานรัฐบาลทหารเมียนมา ทำให้มีผู้อพยพทั้งภายในเมียนมาและมายังประเทศไทยได้รับผลกระทบนับหมื่นคน ซึ่ง 3 วันก่อนหน้านี้ สหภาพกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้ออกแถลงการณ์ ขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนไทยที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ลี้ภัย และห่วงสถานการณ์จะวิกฤตุจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของเมียนมา จึงเรียกร้องให้สหประชาชาติกำหนดเขตห้ามบินในเมืองเลเกก่อ โดยเรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและเกิดการสังหารประชาชน ซึ่งดูเหมือนไม่เป็นผลเพราะทหารเมียนมายังโจมตีทางอากาศจนส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในรัฐกะเหรี่ยงได้รับความเสียหาย และ knu ยังเรียกร้องให้ทหารเมียนมาถอนตัวจากการเมือง และ จัดตั้งสหพันธรัฐประชาธิปไตย จะเป็นทางออกเดียวในการยุติสงครามกลางเมืองซึ่งดำเนินมายาวนานกว่า 70 ปี

สำหรับพื้นที่เลเก่ก่อ ที่ถูกโจมตีทางอากาศ ก่อตั้งขึ้นในฐานะ "เมืองใหม่" ในปี 2557 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง KNU และกองทัพพม่า โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากมูลนิธิ Nippon Foundation ของญี่ปุ่น แต่เหตุสู้รบเกิดขึ้นหลังทหารเมียนมาเข้ามาโจมตีเมืองเลเกก่อเพื่อค้นหานักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ถือเป็นการโจมตีใหญ่ครั้งแรกพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ภายใต้กองพลที่ 6 ของ KNU นับตั้งแต่การหยุดยิงในปี 2555

คุณอาจสนใจ

Related News