เปิดไทม์ไลน์ 'หนุ่มอิสราเอล' หนีกักตัวโควิด มอบตัวที่สมุย รอยืนยันผลตรวจ RT-PCR อีกครั้ง

หนุ่มอิสราเอลติดโควิด-19 มอบตัวที่เกาะสมุย กรณีหนุ่มอิสราเอลที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม แล้วติดโควิด แต่กลับหนีออกจากโรงแรมที่พักย่านสุขุมวิท ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้วหลังหนีไปอยู่กับเพื่อนที่เกาะสมุย ตร.ตรวจเบื้องต้นไม่พบเชื้อ แต่ยังต้องรอตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหลังการกักตัวครบ 14 วัน

1.ชายชาวอิสราเอลที่หลบหนี มีชื่อว่า นาย โอฮัท เดินทางเข้าไทยด้วยระบบ Test and Go ประมาณ เที่ยงคืน 10 นาที เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา

2.จากนั้นนั่งแท็กซี่เพื่อเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท โดยแจ้งเข้าพัก 20 วัน และชำระค่าที่พักเป็นเวลา 3 วัน ช่วงประมาณ 01.14 น. ของวันเดียวกัน และมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปิยะเวช มาตรวจ RT-PCR ที่โรงแรมและให้พักคอยผลการตรวจอยู่ที่โรงแรม

3.จากนั้นประมาณบ่าย 2 โมง วันที่ 17 ธันวาคม นายโอฮัท ได้เรียกแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทห-8022 กทม. ที่หน้าห้างเอ็มโพเรียม ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา จ.ชลบุรี แต่โรงแรมปฏิเสธการเข้าพัก เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทาง

4.และช่วงบ่ายวันนั้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่า นาย โอฮัท ติดโควิด-19 แต่เมื่อโรงแรมเพื่อรับตัวนาย โอฮัท ก็ไม่พบแล้ว จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทองหล่อ

5.วันที่ 18 ธันวาคม ประมาณ 4 ทุ่ม ครึ่ง ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ พบว่าปิดเครื่อง แต่ขึ้นข้อมูลสถานที่สุดท้ายคือบริเวณ สนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่าเดินทางออกจากพัทยาไปยัง กทม.

6.กระทั่งวันที่ 20 ธันวาคม หนุ่มอิสราเอลได้เช่ารถตู้อัลพาร์ท มายังจังหวัดชุมพร เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปที่เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วไปพักกับเพื่อนบนเกาะ กระทั่งมีข่าวออกมาทางเพื่อนจึงติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่อขอมอบตัว

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้คุมตัว นาย โอฮัท ไปรักษาที่โรงพยาบาลเกาะสมุยแล้ว เพื่อตรวจหาเชื่อโควิดแบบ RT-PCR อีกครั้ง และรอผลภายใน 6 ชั่วโมง

ด้านพันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ได้ประสานให้หน่วยงานควบคุมโรคในพื้นที่นำตัวไปเข้าระบบการกักตัวให้ครบก่อน เบื้องต้น 14 วัน เมื่อกักตัวครบจึงจะส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อต่อไป ซึ่งหลังการควบคุมตัวได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกรอบแต่ "ไม่พบเชื้อ"เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้สอบถามผู้ต้องหาถึงสาเหตุในการหลบหนี ทราบเพียงว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเตรียมจะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับครอบครัว แต่เขาเดินทางล่วงหน้ามาถึงก่อน 1 วัน และคาดว่าน่าจะได้ทราบผลตรวจจากโรงพยาบาลว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงหลบหนีไป

ส่วนผลตรวจหาเชื้อของครอบครัวที่เดินทางมาทีหลังไม่พบเชื้อทั้งหมด หลังจากนี้ตำรวจจะเรียกทางโรงแรมมาสอบสวนด้วย ว่าหละหลวมหรือไม่ ถ้าใช่ต้องให้กรมควบคุมโรคให้เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับทางโรงแรมต่อไป(ภาพ นักข่าวลงพื้นที่โรงแรม)ขณะที่ทีมข่าวเดินทางไปยังโรงแรมย่านสุขุมวิท ที่นายโอฮัท เข้าพักก่อนจะหลบหนีไป พบว่าเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวขนาดใหญ่ ซึ่งผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นโรงแรมที่เข้าร่วมในระบบ Test and Go แต่เจ้าหน้าที่โรงแรมปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น(กราฟฟิก โทษหลบหนี)เบื้องต้น นาย โอฮัท มีความผิดฐาน ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท และเป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ไม่พักอาศัย ณ ที่ที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zQq5IfneN1Q